แม่ค้าขายสับปะรดในตลาดไทยเจริญรมควันตนเองภายในรถยนต์เก๋งจนเสียชีวิต สามีเผยเขียนจดหมายลาตายทิ้งไว้ที่บ้านระบุว่ามีหนี้สินนอกระบบจำนวนมากถูกแก๊งทวงหนี้ข่มขู่ ก่อนหายตัวไปตั้งแต่วันที่  25 ก.ค.ที่ผ่านมา ตามหาทั่วเมืองจนเจอจอดรถอยู่ในปั้มน้ำมัน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 26 กรกฎาคม 2566 พ.ต.ท.กำจัด จันทะเสน สว.(สอบสวน) สภ เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีผู้พบศพผู้เสียชีวิตภายในรถยนต์เก๋ง บริเวณภายในปั๊มเอสโซ่หมู่ 1 ตำบลดอนทอง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.หญิงขวัญฤทัย ปิยะวงศ์รุ่งเรือง นวท.สบ 4 กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 แพทย์เวรโรงพยาบาลพุทธชินราช เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพิษณุโลก มูลนิธิประสาทบุญสถาน พิษณุโลก พบรถเก๋ง โตโยต้า ฮัสติส สีดำทะเบียน กจ 3940 พิษณุโลก จอดดับเครื่องยนต์อยู่บริเวณหน้าห้องน้ำภายในปั๊มน้ำมันดังกล่าว มีผู้เสียชีวิตเป็นหญิงนั่งอยู่บริเวณที่นั่งคนขับ ทราบชื่อ คือ นางสาวขนิษฐา แสงตะวัน  อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 156 หมู่ที่ 5 ต.บ้านแยง อ.นครไทย จ.พิษณุโลก สภาพศพสวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีเขียว ใส่กางเกงขาสามส่วนลายสก๊อต ภายในรถพบถุงถ่านยังไม่ได้ใช้จำนวน 1 ถุง วางอยู่บนเบาะที่นั่งข้างคนขับ และบริเวณที่วางเท้าหลังที่นั่งคนขับ พบเตาปิ้งย่างวางอยู่ภายในเตามีเถ้าถ่านจำนวนหนึ่ง

ตำรวจสอบสวน นายวงศพัทธ์  เสือสืบพันธ์ อายุ 47 ปี  สามีผู้เสียชีวิตทราบว่า ภรรยามีอาชีพขายสับปะรดอยู่ที่ตลาดไทยเจริญ ตำบลบ้านป่า อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก  มีบุตรกับตนจำนวน 2 คน กินอยู่กันโดยไม่มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง แต่ระยะหลังภรรยามีปัญหาเรื่องกู้หนี้นอกระบบมานับแสนบาท จนเกิดความเครียดเพราะถูกแก๊งเงินกู้นอกระบบตามทวงและพูดจาข่มขู่ และหายตัวออกจากล็อกขายสับปะรดไปตั้งแต่เมื่อวาน เวลาประมาณ14.00 น. และได้เขียนจดหมาย ทิ้งไว้จำนวน 1 ฉบับ ระบุว่าขอโทษตนที่ต้องเป็นหนี้สินจำนวนมาก ขอจบทุกอย่าง ยอมแล้วและขอให้สวด 1 คืนแล้วเผา ไม่ต้องนาน  ตนจึงไปแจ้งความไว้กับพนักงานสอบสวนที่ สภ.เมืองพิษณุโลก กระทั่งมาทราบข่าวว่าเสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์คาดว่าภรรยาคิดสั้นรมควันตนเองจนเสียชีวิตอยู่ในรถ

ต่อมาตำรวจให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากรถมาชันสูตรร่วมกับแพทย์ เบื้องต้นไม่พบบาดแผลถูกทำร้ายร่างกาย ลำตัวแข็งและขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ชม. ตำรวจจึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพส่งให้แพทย์ชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้งที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราชก่อนมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี