จับสองผัวเมียเครือข่ายค้ายาบ้า

ตำรวจ สภ.วังทอง โชว์ผลงานจับสองผัวเมียพร้อมยาบ้ากว่า 6 หมื่นเม็ด สารภาพรับมาจากเหนือตอนบนเช่าบ้านในตัวเมืองพิษณุโลก ก่อนกระจายส่งให้ผู้ค้ารายย่อยโดยนำไปวางตามจุดที่นัดหมายกันทางโทรศัพท์ ตำรวจเตรียมขยายผลทลายทั้งเครือข่ายเร็ววัน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 ก.ย.2566 นายวาทิต ปัญญาคม รอง ผวจ.พิษณุโลก พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก นายสมพงษ์ หอมสนิท นายอำเภอวังทอง พ.ต.อ.เจษฏา ท่าโพธิ์ ผกก.สภ.วังทอง และเจ้าหน้าที่ ปปส.ภาค 6 ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายสิทธิโชค มั่นประสงค์ อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 85/4 หมู่ที่ 3 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัย และ น.ส.ณัฏฐณิชา ดีอินทร์ อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 114 หมู่ที่ 12 ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 61,000 เม็ด


โดย พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ตำรวจชุดสืบสวน สภ.วังทอง สืบทราบว่ามียาบ้าซุกซ่อนอยู่บริเวณป้ายบอกทางริมถนนพื้นที่บ้านหมู่ 3 ต.ดินทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ไปตรวจสอบพบยาบ้า 20,000 เม็ดอยู่ในลังโฟม จึงวิทยุประสานไปยังหน่วยบริการประชาชนตำบลต่าง ๆ ในพื้นที่ อ.วังทอง และอำเภอใกล้เคียง กระทั่งพบรถต้องสงสัยเป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูซุ สีบอร์นเงิน ทะเบียน บน 9521 สุโขทัย ที่บริเวณด่านตรวจศรีโสภณ ริมถนนสายวังทอง – พิษณุโลก ภายในรถนายสิทธิโชคเป็นคนขับและมี น.ส.ณัฎฐณิชา นั่งโดยสารมาด้วย จึงขอทำการตรวจค้นภายในรถพบยาบ้าจำนวน 400 เม็ด จึงควบคุมตัวมาที่ สภ.วังทอง เพื่อสอบสวนปากคำก่อนไปตรวจสอบบ้านเช่าเลขที่ 8/6 ถ.ศรีถมอรัตน์ (หลังวัดธรรมจักร) ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก ที่ทั้งสองคนเช่าพักอาศัยอยู่ ปรากฏว่าพบยาบ้าอีก 40,600 เม็ด

โดยทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าที่ตรวจพบทั้ง 3 จุด รวมจำนวน 61,000 เม็ด นั้น เป็นของตนทั้ง 2 คนจริง เป็นยาบ้าที่รับมาจากพื้นที่ภาคเหนือตอนบน เพื่อนำมาพักไว้ที่บ้านเช่าในตัวเมืองพิษณุโลก ก่อนกระจายให้กับกลุ่มลูกค้ารายย่อย และจะนัดส่งยาบ้ากันบริเวณริมถนนเพื่อให้ลูกค้ามารับไปภายหลังจากนำไปวางไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงสายตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พล.ต.ต.ธวัช ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก กล่าวต่อว่า นายสิทธิโชค เคยต้องโทษคดียาเสพติดในเรือนจำสุโขทัย และเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อปี 2564 แต่ยังมีพฤติกรรมที่กลับมายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหากับทั้ง 2 คน ว่า ร่วมกันมีไว้ในความครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท 1 (เมทแอทเฟตามีน ไฮโดรคลอไรด์ หรือยาบ้า) เพื่อการค้าก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน โดยไม่ได้รับอนุญาต และจะได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อขยายผลถึงกลุ่มเครือข่ายรายนี้ต่อไป