ชิมเมนูหลามไก่ไข่ป่ามเมนูอาหารพื้นถิ่นเอกลักษณ์ของชาวนครชุม
พาไปชิมเมนูอาหาร “หลามไก่ ไข่ป่าม” เมนูอาหารพื้นถิ่นที่ยังคงรักษาภูมิปัญญาที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวบ้าน ต.นครชุม ที่ชนะเลิศการประกวด 1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น ประจำปี 2567 ในโครงการส่งเสริมและพัฒนายกระดับอาหารถิ่นสู่มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทย (Thailand Best Local Food) “รสชาติที่หายไป The Lost Taste”
วันที่ 19 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ประกาศรายชื่อ “1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น” 77 จังหวัดและกรุงเทพมหานคร ในโครงการส่งเสริมและพัฒนายกระดับอาหารถิ่นสู่มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทย (Thailand Best Local Food) “รสชาติ..ที่หายไป The Lost Taste” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดยเมนูที่ได้รับเลือกของ จ.พิษณุโลก คือ เมนูหลามไก่ ไข่ป่าม เมนูอาหารประจำถิ่นของชาวบ้าน ต.นครชุม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก
นายภานุทัศน์ ทนก้อนดี ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวร่องเขานครชุม ต.นครชุม อ.นครไทย เปิดเผยว่า เมนู “หลามไก่” นับเป็นไฮไลท์ที่ชาวบ้านภูมิใจนำเสนอและทำให้นักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนตามโฮมสเตย์ภายในหมู่บ้าน ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวเพื่อชมสายหมอกกลางขุนเขาและเที่ยวชมวิถีชีวิตของชาวชุมชนทุกกรุ๊ป โดยเครื่องปรุงประกอบด้วย ไก่บ้าน และใช้เกลือจากบ่อเกลือพันปีของ ต.บ่อโพธิ์ อ.นครชุม ใบตะนาว ส่วนเครื่องต้มยำประกอบไปด้วย ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด กระเทียม ใบกระเจี๊ยบ ผักชีฝรั่ง ผักกูด สำหรับเคล็ดลับอยู่ที่ปูนาที่เรานำมาทำเป็นน้ำซุป โดยใช้ปูนาที่ทำความสะอาดแล้วนำมาโขลกให้ละเอียดจากนั้นนำมาต้มเป็นน้ำซุปในขณะทำการหลามไก่ จะทำให้หลามไก่ มีความหอม เข้มข้น และเนื้อไก่นุ่ม
กรรมวิธีในการปรุง ก็หั่นไก่เป็นชิ้นพอดีคำ โดยเลาะกระดูกไก่ออกทั้งหมด เพื่อสะดวกเวลานักท่องเที่ยวมาทาน แต่หากเป็นชาวบ้านทานในครัวเรือนเขาจะชอบใส่กระดูกไก่ไปด้วย เวลาทานแทะเพลินเชียว จากนั้นก็หั่นข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ตามด้วยมะขามเปียก กระเทียม พริกขี้หนูทุบ และใบตะนาว ซึ่งเป็นสมุนไพรพื้นบ้าน ใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ เทน้ำซุปปูลงไปพอคลุกคลิกให้ท่วมเนื้อไก่ และโรยด้วยเกลือจากบ่อเกลือพันปีของนครไทย แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วนำไปกรอกใส่บั้งหลามหรือกระบอกไม้ไผ่ที่เราทำความสะอาดรอไว้แล้ว และเผาเหมือนเผาข้าวหลามเลย ควบคุมไฟให้ไม่ลุกโชนจนเกินไป ป้องกันบั้งหลามไหม้ และไก่สุกไม่ทั่วถึง จะใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็สุกแล้ว วิธีการดูว่าไก่สุกได้ที่ คือ น้ำจะเดือดและล้นออกมาจากปากกระบอก บางคนจึงตั้งกระบอกไม้ไผ่เฉียงไว้เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจความสุก เมื่อน้ำเดือดจนล้นออกมาสักพักกลิ่นเครื่องสมุนไพรที่เคลือบไก่บ้าน จะคละเคล้ากับกลิ่นเยื่อไผ่บาง ๆ เสริมรสชาติให้โดดเด่นยิ่งขึ้น เพียงเท่านี้ก็ได้เวลายกขึ้นสำรับพร้อมรับประทาน แล้วนำมาเทใส่ภาชนะที่เราเตรียมไว้ ซึ่งไม่ใช่ถ้วยหรือจาน แต่เป็นกระบอกไม้ไผ่ผ่าครึ่ง หนุนให้เรียบร้อยกันหก สามารถทานแกล้มกับผักพื้นบ้านทั่วไปที่ปลูกได้ อย่างผักกูด มะเขือ ถั่วฝักยาว แล้วแต่จะหาได้ในชุมชน
ส่วนเมนู ไข่ป่าม ใช้ไข่ 3 ฟอง หั่นต้นหอมผักชีใส่ เกลือพันปี และตีให้เข้ากัน จากนั้นเตรียมใบตอง ใบใหญ่พอประมาณ ให้สามารถพับครึ่งได้แล้วไข่ไม่รั่วออกจากใบตอง จากนั้นตั้งกระทะเปล่าใส่น้ำเล็กน้อย รอให้น้ำร้อนแล้วนำใบตองไปนาบกับกระทะ สังเกตใบตองจะเปลี่ยนสีเป็นสีเขียวที่เข้มขึ้น จากนั้นก็นำไข่ที่เตรียมไว้เทลงไป แล้วพับใบตองอีกครึ่งนึงลงไปปิดไว้ ถ้าหากน้ำแห้งเราสามารถเติมน้ำได้ เพื่อช่วยให้ไอน้ำทำให้ไข่สุก สังเกตน้ำแห้งกลิ่นจะเริ่มหอม จากนั้นก็กลับใบตองได้ คอยเปิดดูใบตองว่าไข่สุกหรือยัง ถ้าสุกแล้วก็ยกขึ้นจากกระทะแล้วเสิร์ฟแบบนั้นได้เลย จะได้ความหอมของใบตองด้วย
และนี่คือเมนูหลามไก่ ไข่ป่าม ของ ต.นครชุม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ที่ยังคงรักษาภูมิปัญญาที่เป็นเอกลักษณ์ของชาว นครชุม เวลาทานต้องทานเคียงคู่กันจะได้ความอร่อยไปอีกแบบ เมนูอาหารที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวด 1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น ประจำปี 2567 ในโครงการส่งเสริมและพัฒนายกระดับอาหารถิ่นสู่มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทย (Thailand Best Local Food) “รสชาติที่หายไป The Lost Taste” สามารถหาทานได้ที่ ต.นครชุม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก พร้อมกับเที่ยวชมธรรมชาติที่สวยงามกลางหุบเขา ชมทะเลหมอกช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวปลายฤดูฝนและฤดูหนาว สอบถามรายละเอียดได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลนครชุม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก โทรศัพท์หมายเลข 055 – 009808
