สามคู่รัก LGBTQ+ ชาวจังหวัดพิษณุโลก เดินทางมาจดทะเบียน “สมรสเท่าเทียม” เปิดประตูคู่รัก สิ่งยืนยันสิทธิเท่าเทียมทางกฎหมายตั้งแต่เช้า ท่ามกลางการแสดงความยินดีของพยานรัก หนึ่งคู่รักกันมาถึง 18 ปี เผยดีใจที่ได้รับการยอมรับจากสังคม

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่า กฎหมายสมรสเท่าเทียมเป็นสิ่งที่คู่รักหลากเพศหลายคู่เฝ้ารอมายาวนาน บางคู่ใช้ชีวิตร่วมกันมานาน สร้างอาชีพ และมีทรัพย์สินร่วมกัน ซึ่งกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อเปิดโอกาสให้คู่รักเพศเดียวกัน ทั้งคู่รักจากไทย และคู่รักกับชาวต่างชาติ ที่อาจมาจากประเทศที่ยังไม่รองรับกฎหมายนี้ ได้จดทะเบียนสมรสในไทยได้ เช้าวันนี้ ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองพิษณุโลก นายอำเภอและเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตกแต่งสถานที่เป็นสีรุ้ง แสดงออกเชิญสัญลักษณ์ LGBTQ+โดยเจ้าหน้าที่สวมเสื้อสีแสดเชิงสัญลักษณ์สีรุ้ง และนายทะเบียนพร้อมด้วยปลัดอาวุโสดำเนินการจดทะเบียนสมรสให้กับผู้มาจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม

ซึ่งช่วงเช้าวันนี้มี 3 คู่รัก ทั้งชายกับชาย และหญิงกับหญิง พร้อมด้วยพยานรักของแต่ละคู่ เดินทางมารอจดทะเบียนด้วยความยินดีตั้งแต่เช้า บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์คู่รักที่จดทะเบียนสมรสเท่าเทียมเป็นคู่แรก คือ นายวชิรพงศ์  พลอยงาม หรือมิกซ์ อายุ 33 ปี และ นายรัตนนนท์ รักษาสัตย์ หรือ อ๊อฟ อายุ 40 ปี ทั้งสองคนอาศัยอยู่ใน ต.บ้านคลอง อ.เมืองพิษณุโลก ได้รับการเปิดเผยว่า ประกอบอาชีพค้าขายมาด้วยกัน ตั้งแต่คบกันมารวมเวลา 18 ปี วันนี้ดีใจมาก ๆ เมื่อคืนนอนไม่หลับ ตื่นเต้น เพราะเรารอคอยวันนี้มาเป็นเวลานานมาก ขอบคุณรัฐบาลและทุกฝ่ายที่ออกกฎหมาย สมรสเท่าเทียม สิ่งยืนยันสิทธิเท่าเทียมทางกฎหมาย 18 ปีที่ผ่านมา มีอะไรหลาย ๆ อย่างที่เราสร้างมาด้วยกัน สร้างมาเพื่อกันและกัน ก่อนหน้านี้เวลาเจ็บป่วยไปรักษาที่ รพ. เราไม่สามารถทำอะไรได้เลย ต้องรอญาติสายตรงเดินทางมา มันหลายทอดกว่าเราจะได้รับการรักษา

ขณะที่คู่รักคู่ที่เป็นหญิงกับหญิงที่เพิ่งแต่งงานกันไปเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา คือ น.ส.หทัยชนก เอี่ยมสะอาด อายุ 31 ปี หรือน้องนิว และ น.ส.ชยุดา คำศรีบัว อายุ 30 ปี หรือน้องฟ้า เป็นคู่รักที่คบกันมา 8 ปี เปิดเผยว่า ตื่นเต้นและดีใจมาก ๆ ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ เรารอคอยเวลานี้มา 8 ปี จนวันนี้เราได้จดทะเบียนสมรสกัน หลังจากที่จัดงานแต่งกันมาแล้ว ตนทั้งสองคนเป็นพนักงานราชการและทำธุรกิจส่วนตัวร่วมกันมา เราตั้งใจว่าอยากจะไปทำธุรกิจที่อเมริกากับญาติ ซึ่งหากจดทะเบียนสมรสกันแล้ว จะทำให้การเดินทางเข้าประเทศของทั้งคู่สามารถเข้าไปได้สะดวกมากขึ้น รวมถึงทรัพย์สินและการดูแลเรื่องสุขภาพ ที่เรากังวลกันมาตลอด วันนี้เหมือนทุกอย่างปลดล๊อคแล้ว เพราะกฎหมายฉบับนี้ ดีใจมาก ๆ

ส่วนคู่รักคู่ที่ 3 คือ น.ส.อาริยา ทองเสือ อายุ 49 ปี และ น.ส.ขนิษฐา กาปัญญา อายุ 33 ปี เป็นคู่รักที่คบกันมา 5 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.อรัญญิก อ.เมือง จ.พิษณุโลก บอกว่ารอวันนี้มา 5 ปีแล้ว เหมือนเป็นวันนี้ที่รอคอย อยากมีวันนี้ อยากให้เป็นที่ยอมรับในสังคม และมีสิทธิตามกฎหมายอย่างสมบูรณ์  เพราะเราจะได้ฝากชีวิตซึ่งกันและกันได้ อะไรที่สร้างมาด้วยกันจะได้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยไม่ต้องห่วงกันว่าถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเกิดเป็นอะไรไป อีกฝ่ายจะลำบาก เพราะเราสร้างอะไรมาด้วยกันเยอะ

• แชร์
• ทวีต
• ส่งไลน์