ชาวนาบางระกำโวยเอาสมองส่วนไหนคิด “ปลูกกล้วยแทนข้าว”
ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์เยี่ยมให้กำลังใจเกษตรกรชาวนาอำเภอบางระกำและอำเภอพรหมพิราม เจอชาวนาบางระกำ รมว.พาณิชย์ คิดได้ไงให้ชาวนาปลูกกล้วยแทนข้าว
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 มีนาคม 2568 ที่สหกรณ์การเกษตรนิคมฯ บางระกำ จำกัด ต.คุยม่วง อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก นายวรวงศ์ รามางกูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ พร้อมคณะลงพื้นติดตามสถานการณ์ข้าวนาปรัง จังหวัดพิษณุโลก โดยได้รับมอบหมายจาก นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ซึ่งบรรยากาศเป็นด้วยความตึงเครียด เนื่องจากชาวนาต่างส่งเสียงตะโกนแสดงความไม่พอใจในการบริหารและนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่แนะนำให้ชาวนาปลูกกล้วยแทนการปลูกข้าว ถามว่า “เอาสมองตรงไหนมาคิด” เคยลงมาดูพื้นที่อำเภอบางระกำบางหรือป่าว เพราะพื้นที่นี้เป็นพื้นที่น้ำท่วมทุกปี กล้วยไม่สามารถนำมาปลูกได้ ให้เอาความคิดปลูกกล้วยไปปลูกที่กรุงเทพฯ แทน
น.ส.พรนัชชา เพ็งอ่วม อายุ 59 ปี ชาวนาอำเภอบางระกำ เปิดเผยว่า ปัจจุบันชาวนาพบอุปสรรคด้านราคาข้าวเปลือกความชื้น 25 เปอร์เซ็นต์ จากราคาตันละ 9,000 บาท เหลือ ราคาตันละ 7,000 บาท ทำให้ขาดทุนเนื่องจาก ต้นทุนการผลิตสูงถึงไร่ละ 5,000 – 6,000 บาท ปุ๋ยก็ราคาสูงขึ้นถึงตันละ 1,000 บาท ราคาน้ำมันไม่มีแนวโน้มลดลง ปัจจุบันข้าวเปลือกความชื้น 29 – 30 เปอร์เซ็นต์ ขายได้ราคา 5,000 – 6,000 บาท/ตัน เท่านั้น เพราะเก็บเกี่ยวแล้วนำไปขายที่สหกรณ์ทันทีโดยไม่มีการตากให้แห้ง เหตุจากไม่มีสถานที่ตากข้าวเปลือก และการเก็บเกี่ยวก็ดูจากสภาพอากาศเป็นหลัก ตอนนี้อยากให้รัฐบาลช่วยพยุงราคาข้าวเปลือกความชื้นที่ 25 เปอร์เซ็นต์ ในราคาละ 9,000 บาท/ตัน
ที่สำคัญรัฐบาลต้องควบคุมราคาปุ๋ย ราคาน้ำมันให้ได้ น.ส.พรนัชชา กล่าวต่อว่า ชาวนาอยากได้สายพันธุ์ข้าวใหม่ ๆ ที่มีอายุข้าว 90 วัน ให้ผลผลิตมากกว่า 1 ตัน/ไร่ ปัจจุบันการช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาโดยรับซื้อข้าวเปลือกที่มีความชื้น 15 เปอร์เซ็นต์ ในราคา 8,500 บาท/ตัน เกษตรกรชาวนาทุกคนล้วนมองตรงกันว่าความชื้น 15 เปอร์เซ็นต์ นั้น ไม่สามารถทำได้แน่เพราะขาดปัจจัยหลาย ๆ อย่าง
ด้าน นายวรวงศ์ รามางกูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การลงพื้นที่อำเภอบางระกำ และอำเภอพรหมพิราม จ.พิษณุโลก วันนี้ เป็นการลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจเกษตรกรชาวนา มารับฟังความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวนา และตรวจสอบมาตรฐานตราชั่ง ดูการซื้อขายข้าวเปลือกนาปรังที่มีราคารับซื้อข้าวเปลือกความชื้น 15 เปอร์เซ็นต์ ในราคา 8,500 บาท/ตัน และจะได้นำปัญหาต่าง ๆ ที่เกษตรกรชาวนาประสบไปรายงานต่อ รมว.พาณิชย์ เพื่อรับทราบต่อไป
