กู้ภัยตัดถ่างช่วยคนขับบาดเจ็บติดภายในหลังรถเสียหลักลงข้างทาง
รถกระบะบรรทุกแก๊สหุงต้มมาเต็มคันรถกำลังจะไปส่งลูกค้าที่ อ.วังทอง เกิดเสียหลักตกลงข้างทางเพราะคนขับควบคุมรถไม่ได้ ทำใก้แก๊สรั่วไหล กู้ภัยข่าวภาพรับแจ้งเหตุรุดไปที่เกิดเหตุช่วยนำผู้บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาล 2 ราย กันที่เกิดเหตุเข้มหวั่นคนมุงสูบบุหรี่ให้เกิดเพลิงไหม้
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ร.ต.อ.หญิง นฤชล แสงอุ่น รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งรถยนต์บรรทุกแก๊สเสียหลักพลิกคว่ำข้างทางถนนบายพายสายสี่แยกหนองอ้อ – สี่แยกอินโดจีน บ้านคลองคูณ หมู่ที่ 1 ต.อรัญญิก อ.เมืองพิษณุโลก ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและมีแก๊สรั่วไหล ไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ พิษณุโลก และประสานให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองอรัญญิกมาที่เกิดเหตุด้วย เพื่อป้องกันเหตุ พร้อมขอให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันประชาชนไม่ให้ไปมุงดู หรือสูบบุหรี่เพราะอาจทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ได้
พบรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สตราด้า สีเขียว ทะเบียน บต.1453 พิษณุโลก ของบริษัทสยามแก๊ส ซึ่งบรรทุกถังแก๊สหุงห้มมาเต็มคันรถพลิกคว่ำตะแครงด้านขวาฝั่งคนขับอยู่ข้างทาง โดยถังแก๊สกระเด็นหล่นกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ พบผู้บาดเจ็บอยู่ในพงหญ้า 1 ราย ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า แผลถลอกตามร่างกาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยเหลือนำส่ง รพ.พิษณุเวช เพื่อให้แพทย์รักษาตัว ทราบชื่อคือ นายศรัณย์ คร้ามสมอ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 1 ต.พรหมพิราม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เป็นผู้โดยสาร ภายในรถพบผู้บาดเจ็บแขนซ้ายหักและขาขวาหักติดอยู่บริเวณที่นั่งคนขับ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างช่วยเหลือนำออกมาส่งรักษาตัวที่ รพ.พิษณุเวช เช่นเดียวกัน ทราบชื่อคือ นายสืบ สืบใจถา อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 หมู่ 1 ต.สามพวง อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย
เบื้องต้น ตำรวจสอบสวน นายสืบ คนขับรถยนต์กระบะ ทราบว่า ขับรถออกจากบริษัทสยามแก๊สเพื่อไปส่งให้กับลูกใน อ.วังทอง โดยบรรทุกแก๊สหุงต้มมาเต็มคันรถ ใช้ความเร็วประมาณ 60 กม./ชม เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถยนต์ไม่ทราบว่าเป็นอะไรส่ายไปมาจนไม่สามารถควบคุมได้ จึงทำให้รถเกิดเสียหลักตกลงข้างทางเฉี่ยวชนป้ายชื่อหมู่บ้านแล้วพลิกตะแคงทำให้ตนเองและพนักงานที่มาด้วยได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป เนื่องจากมีทรัพย์สินของทางราชการได้รับความเสียหาย
