เปิดให้เข้าท่องเที่ยวบ้านน้ำจวง หรือ ซาปาเมืองไทย หลังผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 เชิญชวนพักโฮมสเตย์ ชมดอกไม้นานาพรรณที่ภูทับสี่ ชมความสวยงามของนาขั้นบันไดที่เนินสองเต้า สัมผัสกับวิถีชีวิตชาวชุมชนอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางสภาพอากาศ 15-18 องศาเซลเซียส

หลายภาคส่วนร่วมกันเตรียมความพร้อม เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักท่องเที่ยวจำนวนมาก ขึ้นภูทับสี่ บ้านน้ำจวง ต.บ่อภาค อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก เพื่อร่วมงานแถลงข่าวเปิดการท่องเที่ยวบ้านน้ำจวง หลังผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 แบบ New normal ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวในชุมชน โดยชุมชน อย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยังยืน โดยมีกลุ่มผู้ขับเคลื่อนน้ำจวง นายมนิตย์  สีฆสัมบันน์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพิษณุโลก ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยงแห่งประเทศไทย กลุ่มภาคเหนือตอนล่าง นายสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ นางศศิวัณย์  ศรีพรหม ผู้ช่วยประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ ผศ.สุพจน์  พฤกษะวัน ที่ปรึกษาสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพิษณุโลก อาจารย์จาก ม.นเรศวร แพทย์จาก รพ.กรุงเทพพิษณุโลก แพทย์แผนไทย พร้อมด้วยชาวบ้านในพื้นที่ร่วมงานแถลงข่าวและชมการแสดงของนักเรียนชาวไทยภูเขาเผ่าม้งบ้านน้ำจวง ในบทเพลงธิดาดอย ที่อ่อนช้อย งดงาม ท่ามกลางสายลมพัดเย็นสบายอุณหภูมิเฉลี่ย15-18 องศา

สำหรับชุมชนบ้านน้ำจวง หรือ ซาปาเมืองไทยเป็นชุมชนที่มีธรรมชาติสวยงาม มีทั้งน้ำตก ภูเขา ป่าไม้และดอกไม้นานาพรรณ อากาศร่มเย็นเป็นชุมชนของชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ซึ่งมีประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของชนเผ่าทีทยังคงอนุรักษ์เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของชุมชน ที่สืบสาน รักษา ต่อยอด พัฒนาโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำรินาขั้นบันไดในรัชกาลที่ 9 สู่การท่องเที่ยวในชุมชนบ้านน้ำจวงอย่างยั่งยืน โดยชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้าน ได้ร่วมกันปลูกข้าวโค้ง หรือ ข้าวหอมมะลิม้ง และ ข้าวเจ้าเขา ทั้งสองพันธุ์เป็นข้าวเจ้าพันธุ์พื้นเมืองที่ชาวไทยภูเขาเผ่าม้งบ้านน้ำจวงจะปลูกไว้อุปโภคบริโภคกันทุกปี   ในแปลงนาที่เตรียมไว้ บนเนิน 2 เต้า ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวนาขั้นบันไดบ้านน้ำจวง กว่า  500 ไร่ ที่สวยงาม  เพื่อเตรียมรับนักท่องเที่ยวได้มาชมวิถีชีวิตของชนเขาเผ่ามั้งในการทำนาแบบขั้นบันได ที่เนินสองเต้า ที่สวยงามไม่แพ้ที่ใด

นอกจากนี้ในพื้นที่บ้านน้ำจวงแห่งนี้ ตั้งแต่ช่วงฤดูฝนจนถึงสิ้นฤดูหนาว นักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม ทั้งชมน้ำตกตาดปลากั้ง อ่างเก็บน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริบ้านน้ำจวง โฮมสเตย์ที่น่าพักผ่อน   ซึ่งจะส่งผลให้ชาวบ้านบ้านน้ำจวง จะได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีรายได้จากนักท่องเที่ยว สำหรับวิถีชีวิตการทำนาขั้นบันไดบ้านน้ำจวงบนเทือกเขาสูง 1,000 เมตร นอกเหนือจากเป็นการใช้ประโยชน์พื้นที่ที่มีจำกัดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว ยังเป็นมนต์เสน่ห์ด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดพิษณุโลกอย่างมาก ในช่วงฤดูหนาว บ้านน้ำจวงเหนือและบ้านน้ำจวงใต้ สภาพอากาศจะหนาวเย็นถึงหนาวจัด ที่ศูนย์บริการการท่องเที่ยวบ้านน้ำจวง ได้ปรับพื้นที่นาขั้นบันได ปลูกไม้ดอก และพืชผลเมืองหนาว ช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไปจะงดงามอย่างมาก

DCIM\100MEDIA\DJI_0915.JPG

ด้าน นายมนิตย์  สีฆสัมบันน์ นายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ทางสมาคมสมาพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ จ.พิษณุโลก พร้อมด้วยหลายหน่วยงานจะได้เข้ามาส่งเสริมให้ชาวบ้านบ้านน้ำจวง หันมาทำนาแบบขั้นบันได้มากขึ้น เพื่อให้เป็นแหล่งปลูกข้าวม้ง อีกทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบยั้งยืน โดยขณะนี้จากการสำรวจพบว่ามีขาวเขาเผ่าม้งบ้านน้ำจวง เริ่มหันมาให้ความสนใจเปลี่ยนพื้นที่ปลูกขิง มาทำนาแบบขั้นบันได้มากขึ้น เพราะว่าหลังจากเกี่ยวข้าวแล้ว พื้นที่ก็ยังสามารถปลูกดอกไม้ หรือ ผัก ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อีกด้วย  จึงอยากให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัส สำหรับระยะทางมาจากตัวเมืองพิษณุโลกประมาณ 140 กิโลเมตร เส้นทางสะดวก มีโฮมสเตย์รองรับนักท่องเที่ยวอย่างเพียงพอ ซึ่งนักท่องเที่ยวสนใจมาชมความสวยงามของธรรมชาติที่บ้านน้ำจวงสามารถติดต่อได้ที่ ผู้ใหญ่นิรันดร์ 063-0676100 หรือ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพิษณุโลก 096-6622219 และ 081-7011199

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า