เปิดรับสมัครนายก อบจ.พิษณุโลก วันแรกหวิดวุ่น
ศึกชิงเก้าอี้นายก อบจ.เมืองสองแคว เปิดรับสมัครวันแรกหวิดวุ่น ผู้สมัครนายก อบจ. จากคณะก้าวหน้า จับสลากเพื่อยื่นตรวจสอบเอกสารได้หมายเลข 3 แต่พบผู้มีสิทธิ์ยื่นเอกสารรายที่สองมีเอกสารไม่ครบไม่สามารถยื่นเรื่องสมัครได้ในวันนี้ ทำให้ตนเองต้องยื่นเอกสารเป็นอันดับที่สอง ส่งผลให้ได้หมายเลขประจำตัวผู้สมัครเป็นหมายเลข 2 ถึงกับลุกขึ้นโวยขอความเป็นธรรม ผอ.กกต.ต้องนำเอกสารชี้แจง จนเป็นที่เข้าใจตรงกัน ส่วนอดีตนายก อบจ.คนเก่า สมัครคนสุดท้ายได้หมายเลข 3 ส่งลูกทีมลงสมัครครบทั้ง 30 เขต
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 2 พ.ย. 2563 ที่ห้องประชุมนครสลวงสองแคว หอประชุมบึงราชนก ต.วังทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เป็นวันแรกของการเปิดรับสมัครนายกและสมาชิก อบจ.พิษณุโลก มีผู้สมัครเดินทางมากันจำนวนมาก โดยทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ได้นำเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิและเจลแอลกอฮอล์ไว้สำหรับผู้ที่จะเข้าไปภายในสถานที่รับสมัคร ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ซึ่งในวันนี้มีผู้เดินทางมาสมัครลงเลือกตั้งในตำแหน่งนายก อบจ.พิษณุโลก จำนวน 4 ราย คือ นายณฐพล พลอาสา สังกัดคณะก้าวหน้าพิษณุโลก นายรัตนะ กาญจนรัตน์ ผู้สมัครอิสระ และ นายเติมสิน แจ้งมีสุข ผู้สมัครอิสระ และนายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ สังกัดทีมพลังพิษณุโลก อดีตนายก อบจ.พิษณุโลก ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับผู้สมัครในแต่ละเขตเลือกตั้งทั้ง 9 อำเภอ ท่ามกลางกองเชียร์ที่นำดอกไม้และรถแห่ป้ายมารอติดหมายเลขประจำตัวผู้สมัครที่รออยู่ด้านหน้าหอประชุมจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศในวันรับสมัครวันแรกมีความคึกคัก แม้จะมีฝนตกลงมาบ้างเล็กน้อยก็ตาม เนื่องจากทาง อบจ.พิษณุโลก ได้จัดเตรียมเต้นท์มาให้บรรดากองเชียร์ของแต่ละทีมได้นั่งหลบฝนหลบแดดอย่างเพียงพอ
ในส่วนของการรับสมัครนายก อบจ.พิษณุโลก นั้น เนื่องจากมีผู้สมัคร 3 ราย มาลงชื่อก่อนเวลา 08.30 น. ไม่สามารถตกลงเรื่องหมายเลขประจำตัวผู้สมัครได้ ทางคณะกรรมการรับสมัครจึงให้จับฉลากเพื่อใช้ในการยื่นเอกสารเพื่อตรวจสอบ ก่อนทำการสมัครเพื่อให้ทาง กกต.รับรองหมายเลขประจำตัวผู้สมัครต่อไป ส่วน นายมนต์ชัย มาลงชื่อหลังเวลา 08.30 น. จึงไม่มีสิทธิ์ในการจับฉลาก ซึ่งผลการจับฉลากปรากฏว่า นายรัตนะ จับได้หมายเลข 1 นายเติมสินจับได้หมายเลข 2 และนายณฐพล จับได้หมายเลข 3 จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้สมัครยื่นเอกสารเพื่อตรวจสอบตามลำดับหมายเลขที่จับฉลากได้ ปรากฏว่า นายเติมสิน นำเอกสารมายื่นไม่ครบเนื่องจากขาดเอกสารวุฒิการศึกษา นายณฐพลจึงต้องยื่นเอกสารเป็นอันดับที่ 2 แทน ถึงกับทำให้นายณฐพล จากคณะก้าวหน้าแสดงความไม่พอใจต่อคณะกรรมการเลือกตั้ง ถึงกับยืนขึ้นพูดด้วยเสียงดังไปทั่วหอประชุมว่า ขอความเป็นธรรมให้กับตนด้วย เพราะตนจับฉลากได้หมายเลข 3 แล้ว ก็น่าที่จะได้หมายเลข 3 ที่ใช้ในการหาเสียงนายก อบจ.
ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องชี้แจงให้ทราบว่า ตามระเบียบนั้นการจับฉลากคือการจัดลำดับในการยื่นเอกสารเพื่อตรวจสอบเท่านั้น หากผู้สมัครมีเอกสารไม่ครบถ้วน ก็ต้องเลื่อนลำดับผู้ยื่นเอกสารลำดับถัดไปขึ้นมา แต่นายณฐพล ก็ยังไม่ยอม นางสมิหรา เหล็กพรหม ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำ จ.พิษณุโลก จึงต้องเข้ามาชี้แจงด้วยตนเอง พร้อมกับนำระเบียบข้อบังคับให้เจ้าหน้าที่อ่านให้นายณฐพลทราบว่า ขั้นตอนในการรับสมัครนายก อบจ. ผู้สมัครทุกคนต้องเตรียมเอกสารให้พร้อม สำหรับการยื่นในสมัคร และนำมายื่นใบสมัครตามขั้นตอน ในกรณีที่เอกสารไม่ครบถ้วน ตามระเบียบข้อ 94 ระบุไว้ เจ้าหน้าที่รับสมัครให้คืนเอกสารและค่าธรรมเนียมเพื่อให้ผู้สมัครรายนั้นนำมายื่นใหม่ ขั้นตอนนี้ยังไม่ได้เป็นการออกหมายเลข หมายเลขผู้สมัครจะได้ก็ต่อเมื่อ ได้จ่ายเงินค่าธรรมเนียมและออกใบรับสมัครเรียบร้อยแล้ว
และหลังจากออกใบรับสมัครแล้ว กฎหมายก็บอกว่า ไม่สามารถถอนการสมัครได้ เพราะฉะนั้นขั้นตอนนี้ จึงเป็นขั้นตอนในการตรวจเอกสารเพียงเบื้องต้น ยังไม่ใช่หมายเลขของผู้สมัคร กรณีนี้ มีผู้สมัครมา 3 ราย มี 1 รายเอกสารไม่ครบถ้วน จากนั้น นางสมิหรา จึงให้เจ้าหน้าที่ทำบันทึกการตรวจสอบเอกสารให้ นายณฐพล นายรัตนะ และนายเติมสิน เซ็นชื่อรับทราบไว้เป็นหลักฐาน นายณฐพลจึงยอมยื่นเอกสารในการสมัครและได้หมายเลขประจำตัวผู้สมัครคือหมายเลข 2 จากนั้น นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ อดีตนายก อบจ.พิษณุโลก หัวหน้าทีมพลังพิษณุโลก จึงยื่นเอกสารให้ตรวจสอบและสมัครเป็นรายต่อไป และได้หมายเลขประจำตัวผู้สมัคร หมายเลข 3 ทันทีที่กองเชียร์แต่ละกลุ่มแต่ละทีมทราบหมายเลขก็พากันนำหมายเลขมาติดป้ายที่รถแห่แต่ละคันทันที
ด้าน นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ หัวหน้าทีมพลังพิษณุโลก ผู้สมัครนายก อบจ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า พวกเราชาวพลังพิษณุโลกมีความตั้งใจและพร้อมที่จะสู้สึกเลือกตั้งทุกคน ครั้งนี้ พลังพิษณุโลกส่งผู้สมัครสจ.ลงครบทุก 30 เขต หาเสียงในด้านการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตประชาชน ทั้งด้านกีฬา ศูนย์ฟิตเนส และการพัฒนาบึงราชนก ที่อบจ.เป็นส่วนหนึ่งที่จะเข้ามาในการพัฒนาบึงราชนกให้เป็นสวนธารณะระดับเมืองที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน การสร้างอาชีพ และดูแลผู้เจ็บป่วย ผู้พิการ ที่เราดำเนินการมาอยู่แล้ว และจะเพิ่มความเข้มข้นเชิงนโยบายเข้าถึงประชาชนให้มากขึ้น
ส่วน นายณชพล พลอาสา คณะก้าวหน้า ผู้สมัครนายก อบจ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า พวกเรามาสมัครเพื่อเลือกตั้งได้เตรียมความพร้อมมา 1 ปีเต็ม สำหรับการเตรียมทีมลงสมัครนายก อบจ.และ ส.อบจ. วันนี้มี ส.อบจ.มาลงสมัคร 23 เขต เนื่องจากบางรายติดภารกิจ คาดว่าลงเต็มที่ประมาณ 27 เขต ส่วนภาพรวมนโยบายคือใช้เทคโนโลยีนำการบริหาร ใช้ศิลปะกีฬานำการท่องเที่ยว และใช้การตลาดนำการเกษตร โดยจะครอบคลุมทั้ง 11 ด้านความเดือดร้อนของจังหวัดพิษณุโลก