วธ.อุตรดิตถ์ จัดงานรำลึกสดุดีเกียรติคุณพระยาพิชัยดาบหัก

สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ จัดพิธีรำลึกครบรอบ 248 ปี พระยาพิชัยดาบหัก 7 มกราคม 2316 โดยจัดเป็นการภายในตามมาตรการการป้องกันโรคระบาดโควิด-19
เมื่อเวลา 10.29 น. วันที่ 7 มกราคม 2564 บริเวณหน้าอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก ณ หัวทุ่งสมรภูมิสวางคบุรี หน้าวัดคุ้งตะเภา จ.อุตรดิตถ์ โดยมีนายสุรพันธ์ เจริญทรัพย์ หัวหน้าสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมผู้มีจิตศรัทธา ได้จัดพิธีสักการะถวายพวงมาลัยดอกไม้สด สดุดีเกียรติคุณพระยาพิชัยดาบหัก เพื่อน้อมรำลึกถึงพระคุณและวีรกรรมที่กล้าหาญของพระยาพิชัยดาบหัก ทหารเอกคู่กายสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วีรบุรุษผู้กล้าที่ชาวจังหวัดอุตรดิตถ์และคนไทยให้ความเคารพนับถือ ทั้งนี้พิธีทั้งหมดจัดเป็นการภายใน เพื่อเป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสโควิด 19 เนื่องด้วยเมื่อวันอังคาร เดือนยี่ แรม 7 ค่ำ ปีมะเส็ง ซึ่งตรงกับวันที่ 7 มกราคม พุทธศักราช 2316 ระยะเวลากว่า 248 ปีที่ผ่านมา เป็นวันที่พระยาพิชัยดาบหักสร้างประวัติศาสตร์ปกป้องกอบกู้เอกราชชาติไทยไว้ด้วยความกล้าหาญ นำทัพทหารต่อสู้กับข้าศึกจนดาบหักคามือ จึงเป็นเหตุให้ได้รับสมญานามว่า “พระยาพิชัยดาบหัก”


อนุสาวรีย์คู่บารมีกู้แผ่นดิน เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่รำลึกถึงเหตุการณ์สิ้นสุดสภาพจลาจล หลังการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง ในการรวบรวมแผ่นดินไทยได้สำเร็จ หลังสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรียกทัพปราบชุมนุมเจ้าพระฝางเมืองสวางคบุรีได้เป็นชุมนุมสุดท้าย ในปี พุทธศักราช 2313 ตั้งอยู่ที่บริเวณหน้าวัดคุ้งตะเภา จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมี ฯพณฯ ศาสตราจารย์ นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ ในปี พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมา และได้ทำการประดิษฐานแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2563 อนุสาวรีย์คู่บารมี ตั้งอยู่ใจกลางตำบลคุ้งตะเภา หรือชื่อเดิมเมืองฝางสวางคบุรี บริเวณหน้าวัดคุ้งตะเภา อดีตวัดที่สถิตย์ของเจ้าคณะใหญ่เมืองฝาง (ตำแหน่งสังฆราชเมืองฝางในสมัยอยุธยา) ด้านหน้าติดกับถนนพิษณุโลก-เด่นชัย บริเวณนี้เป็นจุดเริ่มต้นการเข้าปราบชุมนุมเจ้าพระฝาง ในส่วนหน้าของอนุสาวรีย์จะมีลานกว้างขนาดใหญ่ และด้านตรงข้ามของอนุสาวรีย์เป็นทุ่งสมรภูมิสวางคบุรี หัวไผ่หลวง บ่อพระ ฝาง สถานที่สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงกระทำศึกรวบรวมแผ่นดินไทยได้สำเร็จตามพระราชพงศาวดาร

พระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และรูปเหมือนพระยาพิชัยดาบหัก ได้อัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนแท่นพระบรมราชานุสาวรีย์ และแท่นอนุสาวรีย์ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เวลา 11.09 อนุสาวรีย์ประกอบด้วย พระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชประทับด้านซ้ายเป็นประธาน พระหัตถ์ทรงกุมเตรียมเก็บพระแสงดาบ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงการสิ้นสุดศึกรวมแผ่นดินไทย ในส่วนของพระยาพิชัยดาบหักจะอยู่เบื้องขวา ยืนคู่พระบารมีในฐานะขุนศึกคู่พระทัย เพื่อระลึกถึงวีรกรรมและความกล้าหาญของท่าน ที่ได้เคยร่วมรบเคียงคู่พระวรกายสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในการกอบกู้คืนอิสรภาพและความเป็นปึกแผ่นของไทยจนสำเร็จสมบูรณ์ได้ในปี พ.ศ. 2313 ณ เมืองสวางคบุรี และเหตุการณ์สืบเนื่องที่ท่านได้รับแต่งตั้งให้ครองเมืองพิชัยบ้านเกิด และวีรกรรมการปกป้องขับไล่พม่าจนดาบหักคามือในปี พ.ศ. 2316 ทั้งนี้ตัวฐานอนุสาวรีย์มีความสูงกว่า 8 เมตร เป็นพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่สูงที่สุดในภาคเหนือ และเป็นอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหักที่สูงที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย
ข่าว : aนายประสิทธิ์ ผึ้งสุข