น้องพิพลอย เน็ตไอดอล ชื่อดังเรื่องการแนะนำการแต่งหน้าและขายของออนไลน์ตั้งแต่เรียนอยู่ ม.รังสิต จนมีผู้ติดตามกว่า 3 แสนคน เกิดอุบัติเหตุขณะสามีขับรถมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองพิษณุโลก ทำให้ตนเองดับ สามีบาดเจ็บสาหัส ส่วนลูกอีกสองคนปลอดภัย

เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงาน พ.ต.ท.สุเทพ  มาดิษฐ์ สว. (สอบสวน) สภ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุรถยนต์เก๋งชนเสาไฟฟ้าแล้วตกถนนสายพิษณุโลก – อุตรดิตถ์ บริเวณหน้าบริษัทเกษตรไพศาลธัญกิจ หมู่ 2 ต.วัดโบสถ์ เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 7 ม.ค. ไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพิษณุโลก พบรถยนต์เก๋งนิสสัน จู๊คส์ สีขาว ทะเบียน 4 กจ 8920 กรุงเทพมหานคร เสียหลักตกถนนอยู่ข้างทางในสภาพพังยับเยิน และเสาไฟฟ้าแรงสูงที่อยู่ใกล้กันมีร่องร่อยถูกเฉี่ยว มีผู้บาดเจ็บร้องขอความช่วยเหลือจำนวน 4 ราย หนึ่งในนั้นหมดสติเจ้าหน้าที่กู้ภัยทำการซีพีอาร์ก่อนวิทยุให้หน่วยกู้ชีพ รพ.วัดโบสถ์ มาช่วยเหลือลำเลียงผู้บาดเจ็บทั้งหมดไปที่โรงพยาบาล โดยหญิงที่หมดสติเสียชีวิตในเวลาต่อมาเนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.พัชราพร  อินทร์เทศ อายุ 24 ปีหรือ พิพลอย เน็ตไอดอลชื่อดัง อยู่บ้านเลขที่ 40/902 แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร

บุตรทั้งสองคนของพิพลอยปลอดภัยแล้วญาติดูแลอยู่ขณะนี้

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย คือ นายสันติภาพ  วงศ์บางชวด อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 40/902 แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร สามีของ น.ส.พัชราพร ด.ญ.พิมพ์มาลา  อินทร์เทศ อายุ 4 ปี และ ด.ช.ธานินทร์  อินทร์เทศ อายุ 3 เดือน 3 วัน แพทย์ รพ.วัดโบสถ์ ต้องส่งตัว นายสันติภาพ ไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลพุทธชินราช อ.เมืองพิษณุโลก เนื่องจากอาการสาหัส และนำตัว ด.ญ.พิมพ์มาลา ด.ช.ธานินทร์ ที่ได้รับบาดเจ็บแต่ไม่สาหัส ส่งรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลพุทธชินราชเช่นกัน ล่าสุดญาติได้มารับตัวบุตรทั้งสองคนของ น.ส.พัชราพร ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ตำรวจสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายสันติภาพ ขับรถเก๋งคันเกิดเหตุมุ่งหน้าเข้าเมืองพิษณุโลกหลังจากเดินทางไปเที่ยว จ.เชียงราย เชียงใหม่ และน่าน เพื่อมาพักค้างคืนที่ จ.พิษณุโลก อีก 1 วันก่อนเดินทางกลับบ้านพักที่ จ.สมุทรสาคร แล้วเกิดเสียหลักตกถนนไปชนกับเสาไฟฟ้าแรงสูงที่อยู่ห่างจากถนนประมาณ 15 เมตร จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว จึงจะได้ประสานให้ญาติมารับศพของ น.ส.พัชราพร ที่แผนกนิติเวช รพ.พุทธชินราช เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี และจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป