ทัพภาค 3 ทำการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ จำนวน 5 แห่ง ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพิ่มแสงสว่างในหมู่บ้านและในใจประชาชน

เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 พ.อ.รุ่งคุณ  มหาปัญญาวงศ์ โฆษกกองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 พร้อมด้วย พ.อ.นพ.วิโรจน์  ชนม์สูงเนิน รองโฆษกฯ, พ.ท.วรปรัชญ์  กาศสกุล และ พ.ท.หญิงบุณฑริกา  ฑีฆวาณิช ผู้ช่วยโฆษกฯ ร่วมกันแถลงข่าวประชาสัมพันธ์ ครั้งที่ 121 ที่ ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.เมือง จ.พิษณุโลก

โดย พ.อ.รุ่งคุณ โฆษกกองทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยยังมีหมู่บ้านในพื้นที่ถิ่นทุรกันดารอีกหลายแห่ง และสำหรับพื้นที่ชายแดนในเขตภาคเหนือ ที่ยังขาดแคลนระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต และการประกอบอาชีพที่มั่นคง ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 จึงได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการช่วยพัฒนาพื้นที่ให้มีความ“มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” โดยขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีงบประมาณ 2562 รอบ 2 เพื่อจัดทำโครงการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ในการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลังติดตั้งไม่น้อยกว่า 210 กิโลวัตต์ พร้อมติดตั้งระบบกักเก็บพลังงาน(แบตเตอรี่ลิเธียม) ขนาดความจุ 998 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง และติดตั้งโครงข่ายไฟฟ้าชุมชนระยะทาง 5,409 เมตร ติดตั้งเสาไฟฟ้าแสงสว่างพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 120 ชุด รวมทั้งโรงคลุมแบตเตอรี่ ในพื้นที่เป้าหมายของ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ จำนวน 5 แห่ง

ซึ่งได้แก่ หมู่บ้านพะอัน ต.สบโขง ใช้แผงโซล่าเซลล์แสงอาทิตย์ จำนวน 30.72 กิโลวัตต์  หมู่บ้านจกปก ต.แม่ตื่น ใช้แผงโซล่าเซลล์แสงอาทิตย์ จำนวน 51.20 กิโลวัตต์ หมู่บ้านห้วยไก่ป่า ต.แม่ตื่น ใช้แผงโซล่าเซลล์แสงอาทิตย์ จำนวน 51.20 กิโลวัตต์ หมู่บ้านมูเซอหลังเมือง ต.ม่อนจอง ใช้แผงโซล่าเซลล์แสงอาทิตย์ จำนวน 51.20 กิโลวัตต์ และศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาความมั่นคงพื้นที่ ใช้แผงโซล่าเซลล์แสงอาทิตย์ จำนวน 30.72 กิโลวัตต์ โดยได้ในการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ครั้งนี้ มีเป้าหมายหลักไปยังพื้นที่สาธารณะประโยชน์ และพื้นที่ส่วนกลางของหมู่บ้าน ได้แก่ อาคารเรียน ศาลาประชาคมประจำพื้นที่ และเสาไฟส่องสว่างตามเส้นทางภายในหมู่บ้าน ส่วนโครงข่ายไฟฟ้าชุมชนที่ให้ประชาชนใช้งานภายในบ้านจะดำเนินการต่อไปในอนาคต

แม้ว่าไฟฟ้าจะเป็นปัจจัยที่สำคัญในการดำเนินชีวิต แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ การให้โอกาสทุกคนในการเข้าถึง และใช้ประโยชน์จากไฟฟ้าได้อย่างเท่าเทียมกัน และจากการสนับสนุนของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเข้าถึงไฟฟ้าของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ห่างไกลในวันนั้น จึงทำให้ในวันนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 และทุกภาคส่วนของรัฐ มีโอกาสเข้าถึงชุมชนทุก ๆ มิติ เพื่อช่วยกันสร้างความสว่างไสวให้เกิดขึ้น เกิดแสงสว่างในหมู่บ้านและในใจประชาชนอย่างแท้จริง

• แชร์
• ทวีต
• ส่งไลน์