ลูกสาวยืนยันซากศพที่เหลือแต่โครงกระดูกเป็น “นางต้อย” วัย 68 ปี มารดาตนเองที่หลงป่า หลังมีชาวบ้านพบขณะเข้าไปเก็บผักหวานในป่า อยู่ในลำห้วยใกล้กับหุบเขาขมิ้น เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาน้อย-เขาประดู่  ต.บ้านยาง  อ.วัดโบสถ์

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 23 ก.พ. ร.ต.อ.สมศักดิ์  ขอเทียม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก และ ร.ต.อ.พีรพันธ์ กันหมุด รอง สว.(สอบสวน) สภ.วัดโบสถ์ พร้อมด้วย พ.ต.ท.หญิง สุนันทา  ศรีพันนาม นวท.สบ 3 กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน ได้เดินทางเข้าไปตรวจสถานที่พบซากศพของมนุษย์เป็นหัวกะโหลกและกระดูกส่วนร่างกายอยู่บริเวณกลางป่าเขาขมิ้น และพบกระเป๋าใส่เงินพร้อมกางเกงขาสามส่วนจำนวน 1 ตัว อยู่ห่างจากบ้านหินลาด หมู่ 14 ต.ดอนทอง อ.เมืองพิษณุโลก ประมาณ 5 กม. เบื้องต้นคาดเป็น นางต้อย สิงโต อายุ 68 ปี ชาวบ้านหมู่ 14 ต.ดอนทอง อำเภอเมือง จ.พิษณุโลก ที่หายตัวออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ.2564 ซึ่งบุตรและญาติเชื่อว่าหลงอยู่ในป่า จนมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนออกค้นหาทางภาคพื้นที่ดินและทางอากาศโดยใช้ร่มบินนานเกือบ 1 สัปดาห์ แต่ไม่พบร่องรอย

โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร ม.พัน 9 เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาน้อย-เขาประดู่ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ หน่วยน้ำดำ และตำรวจชุดสืบสวน  สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมด้วยชาวบ้านจำนวนหนึ่ง เดินทางไปที่จุดพบศพด้วย ซึ่งจุดพบซากศพที่เหลือเพียงกระดูก อยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาน้อย-เขาประดู่ ใน ต.บ้านยาง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก จุดแรกโครงกระดูกของมนุษย์ที่แห้งและเน่าห่อหุ้มด้วยเสื้อผ้าสีค้ำ นอนคดคู้อยู่ในห้วยน้ำที่แห้งขอด ยังมีกลิ่นศพอยู่ ขณะที่สิ่งของคือ กระเป๋าสตางค์สีดำรูปข้าง ตกอยู่ตอนบนของภูเขา ห่างจากร่าง นางต้อย ประมาณ 20  เมตร จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เดินตามหาศีรษะ พบอยู่ตอนเหนือประมาณ 500 เมตร อีกฝั่งของภูเขา  ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาน้อย-เขาประดู่ บริเวณ “ภูเขาม้วน” ซึ่งเป็นทางตัน ไม่สามารถเดินทางต่อไปไหนได้ เนื่องจากเป็นหุบเหว คาดว่า นางต้อย น่าจะเดินหลงป่ามา กระทั่งเสียชีวิตจนเหลือแต่โครงกระดูกกับเสื้อผ้าสีคล้ำ ๆ ดังกล่าว

นางวาสนา  อ๊อตเอก อายุ 49 ปี ลูกสาวนางต้อย เปิดเผยว่า วันนี้ได้นำเครื่องเซ่นไหว้ มาบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเจ้าป่าเจ้าเขาว่า ขอให้พบชิ้นส่วนคือ ศีรษะของแม่ เพื่อนำไปบำเพ็ญ กุศลให้ครบ มาดูจุดพบศพของแม่แล้ว ก็พบกระเป๋าสตางค์ของแม่ ซึ่งมีรูปช้างปกติใช้แขวนคล้องคอประจำตกอยู่ไม่ห่างจากศพของแม่ ส่วนเสื้อและกางเกงก็ยืนยันว่า เป็นแม่ของตน จึงมั่นใจแน่นอน พบร่างของแม่แล้ว คนที่พบคนแรก ก็คือหลานของตน ที่เข้าป่ามาเก็บผักหวาน บังเอิญพบศพ กระทั่งโทรมาบอกตนว่า เป็นแม่ต้อยหรือไม่ ได้มาดูที่เกิดเหตุด้วยตนเองแล้ว มั่นใจว่าเป็นแม่ของตนเอง และพบยังมีเงินอยู่ในกระเป๋า

ด้าน ร.ต.อ.สมศักดิ์  ขอเทียม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก ซึ่งเป็นผู้รับแจ้งความคนหายไว้และรับคดีนี้ไว้ดำเนินการเปิดเผยว่า ในที่เกิดเหตุพบผ้าลักษณะเป็นเสื้อคอกระเช้าและกางเกงขาสามส่วน รองเท้าแตะฟองน้ำสีน้ำเงิน 1 ข้าง พร้อมทั้งเงินในถุงผ้าที่ใส่สตางค์จำนวน 13,220 บาท ยาดม 1 แท่ง และไฟแช็ก แม้ญาติจะยืนยันว่าเป็นของนางต้อยผู้สูญหายจริง แต่ทางตำรวจก็ต้องนำซากศพที่เหลือแต่โครงกระดูกส่งให้แพทย์ชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตโดยละเอียดอีกครั้ง ที่แผนกนิติเวช รพ.พุทธชินราช พร้อมกับตรวจดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์ตัวตนผู้เสียชีวิต ว่าเป็นนางต้อยที่ญาติได้แจ้งความเป็นบุคคลสูญหายไว้หรือไม่ หากตรงกันก็จะได้มอบให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป