จัดฉีดวัคซีนโควิดให้บุคลากรทางการแพทย์

จังหวัดอุตรดิตถ์เร่งปูพรมฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ครอบคลุมเป้าหมาย กลุ่มสาธารณสุข และกลุ่มทั่วไป
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 22 เม.ย.64 ที่อาคารห้องประชุมฟูบุญถึง โรงพยาบาลลับแเล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ นพ.เกษม ตั้งเกษมสำราญ นพ.สสจ.อุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า จังหวัดอุตรดิตถ์ เริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนโควิด-19 ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 64 ที่ผ่านมาตามนโยบายรัฐบาล โดยกลุ่มแรกที่ได้รับวัคซีนเป็นผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า แพทย์ พยาบาลในทีมตรวจโรค สอบสวนโรค ทีมตรวจคัดกรองโรค(swab) ทีมห้องปฏิบัติการตรวจโควิต-19 และบุคลากรการแพทย์ที่มีความเสี่ยงในลำดับ ต่อไป รวมจำนวน จำนวน 4,625 คนการวัคซีนโควิด-19 รอบที่ 1 ได้ดำเนินการฉีดระหว่างวันที่ 4-7 เม.ย.2564 เป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า 425 คน และเป็นกลุ่ม อสม.ด่านหน้า 474 คน รวม 899 คน และการฉีดวัคซีนโควิต-19 รอบที่ 2 ดำเนินการ ฉีดวัคซีน ในระหว่างวันที่ 22-23 เม.ย.2564 เป้าหมายเป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมด จำนวน 2,380 คน

สรุปรวมการฉีดวัคซีนเฉพาะกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขรอบที่ 1 และ รอบที่ 2 จำนวน 2,805 คน คิดเป็นร้อยละ 61 ซึ่งตั้งเป้าหมายไว้ 100 เปอร์เซ็นต์ จังหวัดอุตรดิตถ์มีแผนการเตรียมฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรในกลุ่มอื่น ๆ ต่อไป ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ที่เหลือ อสม.ด่านหน้า ตำรวจ ทหาร ปกครอง กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 โรค ได้แก่ 1.โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรงเช่น COPD, Asthma ที่ควบคุมได้ไม่ดี 2.โรคหัวใจและหลอดเลือด 3.โรคไตเรื้อรังระยะที่ 5 ขึ้นไป (ไตวายเรื้อรัง) 4.โรคหลอดเลือดสมอง 5.โรคมะเร็งทุกชนิดที่อยู่ระหว่างการรักษาด้วยเคมีบำบัด รังสีบำบัดและภูมิคุ้มกันบำบัด 6.โรคเบาหวาน และ 7.โรคอ้วน หลังจากกลุ่มนี้แล้ว เป้าหมายต่อไปเป็นกลุ่มประชาชนทั่วไป

นพ.เกษม ตั้งเกษมสำราญ นพ.สสจ.อุตรดิตถ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 อาจมีอาการข้างเคียงเกิดขึ้นได้ โดยพบว่ามีอาการข้างเคียงตั้งแต่อาการน้อย อาการปานกลาง เช่น ปวดเมื่อยตามตัว เป็นไข้ คลื่นไส้อาเจียน อ่อนเพลีย และอาการรุนแรง โดยมีอาการคล้ายโรคหลอดเลือดสมอง มีอาการแขนขาอ่อนแรง ชา ซึ่งกรณีที่เกิดอาการรุนแรงต้องเข้ารับการรักษาทันที ทั้งนี้ในการจัดฉีดวัคซีนทางโรงพยาบาลมีความพร้อมในการปฏิบัติงานกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินตลอดการให้วัคซีน สำหรับการเตรียมตัวก่อนรับวัคซีนโควิด-19 ให้ดื่มน้ำให้มาก ๆ (อย่างน้อย 1 ลิตร) ก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนประมาณ 12 ชม. งดดื่มกาแฟ ยาคุมกำเนิด ยาลดน้ำมูก (สูตรที่มียาลดอาการคัดจมูก เช่น pseudoephedine, phenylephine ยาไมเกรน เช่น Cafergot, Tofago, Avamigrine,Migana) และต้องนอนพักผ่อนให้เพียงพอ
ข่าว : ประสิทธิ์ ผึ้งสุข




