ตำรวจคุม 4 ผู้ต้องหาฆ่า “แจ๊ก” หัวหน้าสายฯ เงินกู้นอกระบบไปทำแผน

รวบแล้ว 4 ผู้ต้องหา บุกยิงหนุ่มเก็บเงินกู้ ตำรวจนำตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ “อาร์ม” เผยปืนลั่นขณะแย่งจากมือของ “แจ๊ก” ปมเหตุเรื่องปัญหาส่วนตัวและท้าทายกัน หลังเกิดเหตุนำทูตมรณะที่เป็นปืนของผู้ตายเองไปด้วย ก่อนถูกตำรวจจับกุมได้ยกแก๊ง
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 10 ก.พ.2565 พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก พร้อมกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก และตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ควบคุมตัว นายพงศกร โตสุวรรณ์ อายุ 33 ปี หรือโอ๊ะ นายอรรถพล เสือเปรม อายุ 26 ปี หรืออาร์ม นายสาธิต พานโย หรือเอก ปากน้ำโพ อายุ 43 ปี และนายปริญญา สามล หรือต้น อายุ 33 ปี ผู้ต้องตามหมายจับของศาลจังหวัดพิษณุโลก ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน ร่วมกันทำร้ายผู้อื่น ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ บ้านเช่าเลขที่ 459/1106 ซอย 12 หมู่ที่ 7 ต.สมอแข อ.เมืองพิษณุโลก ซึ่งอยู่ภายในหมู่บ้านชินลาภ

หลังจาก พ.ต.ท.อรรถวิทย์ สุขทัศน์ สว.สส. สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมกับพวก จับกุมตัวผู้ต้องทั้ง 4 คนตามหมายจับของศาลจังหวัดพิษณุโลกได้เมื่อเวลา 16.50 น. วันที่ 9 ก.พ.2565 โดยก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาทั้ง 4 ได้ก่อเหตุร่วมกันใช้อาวุธปืนยิง นายวีรพงศ์ แพงเพ็ชร อายุ 33 ปี หัวหน้าสายตรวจเงินกู้นอกระบบ ที่มีหน้าที่ตรวจสอบยอดเงินปล่อยกู้และติดตามการทำงานของพนักงานปล่อยและเก็บเงินกู้ในสายของตัวเองเสียชีวิตเวลาประมาณ 00.15 น. วันที่ 9 ก.พ.2565 พล.ต.ท.อัครเดช พิมลศรี ผบช.ภ.6 จึงสั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 6 ชุดสืบสวน ภ.จ.พิษณุโลก ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ออกสืบสวนหาข่าวและสามารถจับกุมคนร้ายได้ทั้งหมดภายในเวลา 24 ชั่วโมง พร้อมกับรถยนต์กระบะ รีโว่ สีขาว 4 ประตู ทะเบียน กจ.1784 อุทัยธานี และอาวุธปืนขนาด .32 ของนายสุรพงศ์ ผู้เสียชีวิต

พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก เปิดเผยว่า พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า สำหรับคดีนี้เป็นเหตุอุกอาจสะเทือนขวัญประชาชน ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ.6 ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนสนธิกำลังสืบสวนหาข่าว จนทราบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตรู้จักกัน และเคยทำงานร่วมกันเมื่อรวบรวบพยานหลักฐานแวดล้อมต่าง ๆ แล้ว จึงได้ขออำนาจศาลจังหวัดพิษณุโลกออกหมายจับ และสามารถจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา โดยผู้ต้องหาทั้ง 4 รายให้การภาคเสธฯ อ้างว่าไปด้วยกันทั้ง 4 คนจริง แต่มีเพียงนายสาธิตและนายอรรถเท่านั้น ที่มีปากเสียงและต่อสู้กับผู้เสียชีวิต โดยไม่ได้เจตนาฆ่า เพราะผู้เสียชีวิตจะยิงพวกตนก่อน นายสาธิตและนายอรรถลจึงเข้าชาร์ต และมีการต่อสู้กันจนเกิดเหตุปืนลั่นจำนวน 2 นัด จนนายแจ๊ก หรือนายวีรพงศ์ แพงเพ็ชร ถูกกระสุนปืนที่บริเวณเหนือราวนมด้านซ้าย กระสุนฝังในไปตุงอยู่ที่ชายโครงซ้ายเป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว

ส่วนปมเหตุเบื้องต้นทราบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตรู้จักกันเป็นอย่างดี ลูกน้องของนายวีรพงศ์เคยขอยืมรถจักรยานยนต์ของกลุ่มนายสาธิต หรือเอก ปากน้ำโพ มาใช้จนรถพัง ไม่ยอมซ่อมให้ซักที พอมีการทวงถามก็ซ่อมให้แล้วส่งคืน แต่ลูกน้องนายวีรพงศ์ใส่อะไหล่ปลอมไปให้ จึงเป็นเรื่องคาใจมาถึงทุกวันนี้ กระทั่งคืนก่อเหตุได้มีการโทรศัพท์ท้าทายกันจนกลุ่มนายสาธิตมาหาเพื่อเคลียร์กันให้จบ กระทั่งเกิดการทะเลาะวิวาทและมีการยื้อแย่งอาวุธปืนระหว่าง นายอรรถพล เสือเปรม และ นายวีรพงศ์ แพงเพ็ชร ผู้เสียชีวิตที่เป็นเจ้าของปืน จนเกิดปืนลั่นดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามตำรวจยังไม่ได้ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ต้องรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์ออกมายืนยันเกี่ยวกับคราบเขม่าดินปืน และวิถีกระสุนอีกครั้ง เบื้องต้นได้ควบคุมตัวไว้ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อสอบสวนปากคำเพิ่มเติม ก่อนนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป




