อบรมโครงการแพทย์แผนไทยปฏิบัติธรรมและหัตถการรักษาโรค
สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเมืองสองแควเดินหน้าร่วมกับวิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร มูลนิธิแพทย์แผนไทยติกิจฉาเวช และชมรมหมอย่ามแดงพิษณุโลก วัดวังหิน จัดอบรมเพิ่มพูนความรู้ให้กับแพทย์แผนไทยทั่วประเทศ
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 11 ก.พ.2565 นายรณชัย จิตรวิเศษ ผวจ.พิษณุโลก เป็นประธานเปิดการอบรมโครงการแพทย์แผนไทยปฏิบัติธรรมและหัตถการรักษาโรค ที่วัดวังหิน ต.พลายชุมพล อ.เมืองพิษณุโลก โดยมี นางศศิวัณย์ ศรีพรหม ประธานบริหารมูลนิธิการแพทย์แผนไทยติกิจฉาเวช และประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.พิษณุโลก กล่าวรายงานความเป็นมาและวัตถุประสงค์การจัดงาน ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติและผู้เข้ารับการอบรม โดยมีการวางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด นางศศิวัณย์ กล่าวว่า การแพทย์แผนไทยเป็นวัฒนธรรมในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บที่สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นเพื่อเป็น การสืบสานและรักษาต่อยอดการแพทย์แผนไทยให้ดำรงอยู่และพัฒนาต่อไป คณะกรรมการจัดงานจึงได้การอบรมหลักสูตรแพทย์แผนไทยปฏิบัติธรรมและหัตถการรักษาโรคขึ้น
โดยบรรยากาศเปิดงานในวันนี้มีตัวแทนแพทย์แผนไทย หลากหลายสาขามาออกบูธสาธิตกรรมวิธีในการดูแลสุขภาพแบบแพทย์แผนไทย โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกเข้าร่วมชมบูธของสมุนไพรสุมยาโปร่งฟ้า จากสวนสมุนไพร 12 กลุ่มโรค สมเด็จพระเทพฯ กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ จากสภาวะ โควิด-19 บรรเทาห่าลงปอด และอาการภูมิแพ้เป็นหวัด ปวดไมเกรน วิธีสุมยาเป็นอีกวิธีหนึ่งที่มีความน่าสนใจโดยการสุมยา ซึ่งท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกให้เกียรติสุมยาอยู่พักใหญ่ บอกว่าทึ่งในสมุนไพรของไทยจริง ๆ ได้กลิ่นหอมของการบูร สมุนไพร พอสูดหายใจเข้าไปแล้วรู้สึกโล่งจริง ๆ
นอกจากนี้ ที่ได้รับความสนใจไม่แพ้กันภายในงานนี้ คือการ ย่ำขางเหยียบเหล็กแดง เพราะผู้นวดใช้วิธีการนวดด้วยเท้า นำไปจุมในถาดน้ำมัน แล้วมาเหยียบเหล็กแดงให้ไฟลุกโชน ก่อนมาเหยียบไปตามจุดต่างๆบนร่างกาย ไฟอุ่นช่วยให้เลือดหมุนเวียน คลายปวดเมื่อยได้ดี และบูธของการตอกเส้นคลายสะบักจม อาการอ๊อฟฟิตซินโดรม ก็ได้รับความสนใจไม่แพ้กัน รวมถึงบูธของการบ่งต้อด้วยหนามหวาย ที่หลายคนสงสัยกันว่าบ่งที่หลัง แต่ทำไมรักษาตาหายได้ รักษาได้ดีสำหรับผู้ที่เป็นต้อลม ต้อกระจก หายได้โดยไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัดเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีนวดจัดกระดูกคลายเส้น ซึ่งมีคนต่อแถวเข้ารับการนวดด้วยอาการที่แตกต่างกัน ท่ามกลางกองเชียร์คอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ เพราะหลายคนบอกว่าดูแล้วน่ากลัวเพราะดูจากสีหน้าผู้ที่อาสาเข้ารับการนวดแล้ว ต่างมีสีหน้าเหย่เก บูดเบี้ยว เหมือนเจ็บปวด เพราะเวลานวดจะต้องนวดให้จบคอร์ส ใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง แต่จากการสัมภาษณ์หลังนวดเสร็จต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หายปวดเมื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยทีเดียว และรู้สึกได้ถึงการคลายกล้ามเนื้อ ทันทีหลังจากนวดเสร็จ
โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถพระผู้ทรงก่อตั้ง กรมแพทย์แผนไทยและ เทิดพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี พระผู้พระราชทานนามให้แก่วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร, เพื่อให้แพทย์แผนไทยทั้งประเทศได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน, เพื่อเพิ่มพูนความรู้ในการรักษาโรคโควิด 19 ด้วยหลักวิชาการแพทย์แผนไทย และเพื่อบริการการสาธารณสุขให้แก่ประชาชนด้วยแพทย์แผนไทย สำหรับการจัดการอบรมครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 – 13 ก.พ.2565 มีแพทย์แผนไทยทั่วประเทศเข้าร่วมอบรม 300 คน กิจกรรมประกอบด้วยการบรรยายทางวิชาการทั้งในห้องเรียนและระบบออนไลน์ทั้งประเทศ มีการปฏิบัติธรรม มีการฝึกปฏิบัติรักษาโรคโควิด 19 ด้วยแพทย์แผนไทย มีบูธทางวิชาการและรักษาโรคให้แก่ประชาชน และบูธผลิตภัณฑ์ชุมชน รวมทั้งบูธผลงานของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.พิษณุโลก วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร มูลนิธิแพทย์แผนไทยติกิจฉาเวช และชมรมหมอย่ามแดงพิษณุโลก วัดวังหิน
ด้าน นายรณชัย จิตรวิเศษ ผวจ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า จังหวัดเรามีจุดแข็งเพราะเป็นศูนย์รวมของแพทย์สมุนไพรหลายแห่ง อาทิ วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินทร โรงพยาบาลบางกระทุ่ม โรงพยาบาลพรหมพิราม เพียงแค่เรามาเชื่อมต่อกันระหว่างต้นน้ำคือ เรามีกลุ่มของชาวบ้านที่ปลูกสมุนไพรแบบปลอดสารเคมีอยู่แล้ว ส่วนกลางน้ำคือ เรามีโรงพยาบาลฯ วิทยาลัยฯ ที่มีความรู้เรื่องการรักษา และปลายน้ำคือ การนำไปใช้ หรือการจำหน่ายต่าง ๆ ซึ่งเราจะเชื่อมต่อระหว่างต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เข้าด้วยกันให้ครบวงจร ก็จะเกิดการหมุนเวียนในชุมชนให้เข้มแข็งขึ้นและมีรายได้ตั้งแต่ระดับ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำได้ การแพทย์แผนไทยและสมุนไพรขณะนี้กำลังเป็นที่นิยม จะเห็นได้ชัดว่าสามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้ เช่น ช่วงโควิดที่ผ่านมา จะเห็นว่ามีการส่งเสริมให้ปลูกฟ้าทะลายโจร เอามารักษา ตอนที่วิกฤติมาก ๆ หลายคนปลอดภัยจากโควิดได้เพราะฟ้าทะลายโจร เพราะฉะนั้นถ้าเราทำครบระหว่างต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ก็คิดว่าเราสามารถพัฒนาสมุนไพรด้วยมหาวิทยาลัยต่างๆ ในจังหวัด ก็จะทำให้แพทย์แผนไทยของเรามีการพัฒนาไปได้ดียิ่งขึ้น ในส่วนของการนวดรักษาโรค มีมาช้านานแต่ดั้งแต่เดิม ด้วยหลักสูตร ตำรา ครูโบราณต่าง ๆ ซึ่งอาจจะขาดการสานต่อ แต่หากเราสามารถรวบรวมเป็นตำราถ่ายทอดด้วยการรักษาด้วยหัตการรักษาโรคและมีการสืบสาน กันต่อไปคือสิ่งที่เราต้องทำในอนาคตอันใกล้นี้
