ตำรวจทางหลวงสนธิกำลังกับชุดพญาเสือและพยัคฆ์ไพร จับรถหกล้อ 2 คัน ซุกไม้ประดู่เถื่อนกว่า 240 แผ่น บนถนนทางหลวงหมายเลข 12 คนขับสารภาพรับจ้างขับคันละ 5 หมื่น จาก อ.ม่อนแจ่ม จ.เชียงใหม่ มุ่งหน้าส่งให้ลูกค้าที่ จ.หนองคาย มูลค่าไม้คันละ 2 ล้านบาท รวม 4 ล้านบาท ประมาณ 34 ลบ.ม. คาดเตรียมส่งต่อออกนอกประเทศ

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 15  ก.ค.2566  เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจทางหลวง 3 กองกำกับการ 5 พิษณุโลก สนธิกำลังกับกรมอุทยานแห่งชาติ (ชุดพญาเสือ) และกรมป่าไม้ (ชุดพยัคฆ์ไพร) รวมทั้งเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 11 (พิษณุโลก) และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก เฝ้าติดตามไม้เถื่อนที่ถูกลักลอบขนย้ายจาก อ.ม่อนแจ่ม จ.เชียงใหม่ บรรทุกด้วยรถบรรทุกหกล้อยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน 70-3964 เลย รถบรรทุกหกล้อยี่ห้อฮีโน่ หมายเลขทะเบียน  71-2879 เพชรบุรี กระทั่งจับกุมได้บนถนนสายพิษณุโลก-หล่มสัก หน้าโรงเรียนวังทองพิทยาคม อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ตรวจสอบบนรถพบไม้ประดู่ไม่มีร่อยรอยดวงตราของกรมป่าไม้ เป็นไม้ปอนด์ขนาดหน้ายาว 2 เมตรขึ้นไป หนา 3 -10 นิ้ว กว้าง 12 นิ้วขึ้นไป จึงควบคุมคนขับรถหกล้อจำนวน 2 คน คือ นายประชา  มิสา อายุ 41 ปี และ นายบุญล้อม  พรมโมค อายุ 42 ปี ทั้งสองคนมีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.กำแพงเพชร มาสอบสวนปากคำและตรวจสอบไม้ทั้งหมดที่ ส.ทล 3 กก. 5 บก.ทล. จ.พิษณุโลก

จากการสอบสวนเบื้องต้นทั้ง 2 คน สารภาพว่า รับค่าจ้างขนไม้คันละ 50,000 บาท จาก อ.ม่อนแจ่ม จ.เชียงใหม่ ไปส่งให้กับลูกค้าที่ จ.หนองคาย เพื่อส่งไม้ต่อออกนอกต่างประเทศ คาดว่ามูลค่าไม้ประดู่เมื่อถึงปลายทางจะมีมูลค่าคันละ 2 ล้านบาท หรือเฉลี่ยกิโลกรัมละ 1,500 บาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ป่าไม้และอุทยานฯ ได้ขนย้ายไม้ประดู่ลงจากรถบรรทุกพบว่าไม้ประดู่มีน้ำหนักประมาณ 14-15 ตันต่อคัน รวมแล้วกว่า 240 แผ่นขึ้นไป หรือคิดเป็น 15-17 ลูกบาศก์เมตรต่อคัน รวม 34 ลบ.ม.(โดยประมาณ) ก่อนทำบันทึกการจับกุมและควบคุมตัวคนขับรถทั้ง 2 คนส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อให้ดำเนินคดีในข้อหาตาม พรบ.ป่าไม้ต่อไป  และเตรียมขยายผลถึงแหล่งที่มาของไม้ เพราะไม้ประดู่ขนาดใหญ่เป็นที่ต้องการของประเทศเพื่อนบ้านเพื่อทลายแก๊งมอดไม้เหล่านี้ให้สิ้นซาก

นายชัยชาญ  ศรียงค์ หัวหน้าสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและ ปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ กรมอุทยานแห่งชาติ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา มีการประสานงานกันระหว่าง นายชาญชัย กิจศักดาภาพ ชุดพยัคฆ์ไทย กรมป่าไม้ และ นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าชุดพญาเสือ กรมอุทยานฯ หลังสืบทราบว่ามีกระบวนการลักลอบขนไม้แปรรูปจากภาคเหนือไปสู่ภาคอีสาน มีต้นทางอยู่ที่ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ปลายทางที่ จ.หนองคาย จึงได้ทำการฝังตัวสืบสวนกระทั่งทราบว่ามีกระบวนการลักลอบขนไม้เถื่อนแปรรูปที่ลักลอบตัดมาจากเขตป่าสงวนแห่งชาติและเขตอุทยานแห่งชาติในหลายพื้นที่ จึงเฝ้าระวังและติดตามสืบสวนกระทั่งทราบว่ารถบรรทุกหกล้อ 2 คันนี้เริ่มต้นทางมาจาก อ.แม่แจ่ม ผ่าน อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ กำลังเดินทางผ่านมาทาง จ.ตาก มุ่งหน้าผ่าน จ.สุโขทัย และ จ.พิษณุโลก เพื่อไป จ.หนองคาย กระทั่งเข้าเขตจังหวัดสุโขทัยจึงได้ประสานกับสำนักบริหารพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ที่ 11 และตำรวจทางหลวงพิษณุโลกทำการสกัดจับและสามารถจับกุมได้ที่ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ดังกล่าว