สุดแสบโจรตระแวนงัดวิหารและอุโบสถ ขโมยพระพุทธชินราชจำลอง ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว สองวัดดังคืนเดียวกัน คาดว่ามีใบสั่งจากพ่อค้าตลาดมืด ส่วนอีกวัดดังของเมืองสองแควคนร้ายงัดตู้บริจาค มีกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 31 พ.ค.2567  ร.ต.อ.ประเสริฐ  ถาวร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุคนร้ายลักทรัพย์ภายในวิหารหลวงพ่อทองดำ วัดราชบูรณะ ต.ในเมือง จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ธัชพงศ์  วงศ์พัฒนานิวาศ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก ร.ต.อ.หญิง พิมพ์สจี  เจนเชี่ยวชาญ นวท.สบ 1 กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 และตำรวจชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง พบที่เกิดเหตุมีร่องรอยคนร้ายตัดโซ่ที่คล้องกุญแจก่อนเข้าไปภายในวิหารบริเวณส่วนพิพิธภัณฑ์ทุบตู้กระจกลักพระพุทธรูปเป็นพระพุทธชินราช เนื้อโลหะ ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว มูลค่ากว่า 9,000 บาท พร้อมขันทองเหลือง 1 ใบ และลักไหโบราณในตู้ที่อยู่ใกล้เคียงไปอีกจำนวน 2 ใบ ไม่สามารถประเมินราคาได้เนื่องจากเป็นของเก่าที่ขุดค้นพบภายในวัดคาดมีอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี โดยภาพกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุไว้ได้

ตำรวจสอบสวนนายโยกเยก ที่มาพักอาศัยอยู่ในภายในวัดให้การว่าช่วงเวลาประมาณ 24.00 น.เมื่อคืนนี้เห็นรถยนต์เก๋งสีขาวขับเข้ามาจอดภายในวัดใกล้กับวิหารหลวงพ่อทองดำ และมีชายคนหนึ่งอายุประมาณ 35 ปี เดินลงมาจากรถแต่ตนไม่คิดว่าจะเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์เลยไม่ได้สนใจ ด้าน นายกล้า  หงษาชุม ลูกศิษย์วัดราชบูรณะที่มีหน้าที่ดูแลวิหารหลวงพ่อทองดำ เล่าให้ฟังว่า ช่วงนี้มีประชาชนที่มาเจิมนะมะมนต์ที่มือกับหลวงพ่อสำลี พระครูสิทธิธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ จำนวนมากทุกวัน เมื่อหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมามีชาย 3 คน ลักษณะเป็นชาวต่างชาติ 2 คนและชายไทย 1 คน เข้ามาภายในวิหารไม่ได้ให้หลวงพ่อสำลีเจิมมือให้ แต่บอกว่าจะมาไหว้พระ ตนสังเกตดูไม่เห็นว่าทั้ง 3 คนไหว้พระ เห็นเดินวนดูตู้เก็บไหและวัตถุโบราณ และตู้ใส่พระพุทธชินราชที่หายไปเป็นเวลานาน และถ่ายรูปจำนวนมาก ตนสงสัยเข้าไปถามก็บอกว่าพระพุทธรูปองค์นี้สวยดีเลยถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก กระทั่งวันนี้พระพุทธชินราชและไหโบราณหายไป จึงสงสัยว่าทั้ง 3 คนน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน

ต่อมาเวลา 10.30 น. วันเดียวกันนี้ ร.ต.อ.ชานนท์  สมฤทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งว่ามีคนร้ายก่อเหตุลักพระพุทธรูปเป็นพระพุทธชินราชขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว ราคาประมาณ 50,000 บาท ที่อยู่ภายในอุโบสถวัดท่ามะปรางค์ อยู่ในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก ห่างจากวัดราชบูรณะประมาณ 2 กม. จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยตำรวจกลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 และตำรวจชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง พบประตูอุโบสถถูกเปิดแง้มไว้ โดยพระพุทธชินราชที่หายไปปกติจะตั้งอยู่บริเวณตรงกลางฐานพระ ประธานภายในอุโบสถ สอบสวน พระครูประจักษ์ธรรมวินิต รองเจ้าอาวาสวัดท่ามะปราง ทราบว่า เวลาประมาณ 08.30 น. หลังจากฉันภัทตราหารเช้าเสร็จ ได้มาดูความเรียบร้อยของอุโบสถ เนื่องจากจะมีงานบวชอีก 2 – 3 วันข้างหน้า แต่เมื่อมาถึงหน้าประตูอุโบสถก็พบว่ากุญแจที่ล็อคประตูอุโบสถหายไป และประตูเปิดแง้มไว้ จึงเข้าไปตรวจสอบภายในพบว่าพระพุทธชินราชจำลอง ลักษณะลงรักปิดทอง ขนาด 9 นิ้ว ที่ตั้งอยู่หน้าพระประธานได้หายไป จึงแจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบ ปกติอุโบสถไม่ค่อยได้เปิดให้ประชาชนเข้ามา นอกจากเวลามีการจัดงานต่าง ๆ เท่านั้น เบื้องต้นตำรวจคาดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุลักพระพุทธรูปในวัดทั้ง 2 แห่งน่าจะเป็นรายเดียว อาจจะทำตามใบสั่งจากพ่อค้าในตลาดมืด จึงจะได้เร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วต่อไป

นอกจากนี้ ที่วัดบึงกระดาน ต.บ้านป่า อ.เมือง จ.พิษณุโลก คนร้ายได้ก่อเหตุเข้าไปงัดตู้รับบริจาคภายใน วิหารพระตำหนักภักดีนเรศวร์ และวิหารพระพุทธมงคลนิมิต จำนวน 3 ตู้ คาดได้เงินไปไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท โดยมีกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายไว้ได้เป็นชายวัยประมาณ 30 ปี สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงยีนส์ขาสั้น ทำทีมาไหว้พระ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นอาศัยช่วงไม่มีคนลงมืองัดตู้บริจาคเอาเงินไปก่อนเดินออกจากวัดขับขี่รถ จยย.หลบหนีไป นางวาสนา มีอุดร  เจ้าหน้าที่วัดบึงกระดาน เปิดเผยว่า ตู้รับบริจาคดังกล่าวเป็นตู้ที่จะนำเงินมาจ่ายค่าน้ำค่าไฟภายในวัด และสัก 3-4 วันก็จะเปิดตู้ครั้งหนึ่ง ก่อนหน้านี้เป็นช่วงวันวิสาขบูชา ทางวัดจัดให้มีงานตักบาตรเที่ยงคืน มีประชาชนมาร่วมงานและทำบุญกันจำนวนมาก แต่เมื่อวานจะเปิดตู้รับบริจาคเพื่อนำเงินไปจ่ายค่าไฟฟ้า กลับพบว่าถูกคนร้ายลักเงินในตู้รับบริจาคไปแล้ว เหลือเพียงเหรียญบาทคาก้นตู้ไว้เท่านั้น เมื่อมาตรวจสอบกล้องวงจรปิด ก็พบว่ามีคนร้ายมาลักเงินในตู้รับบริจาคดังกล่าว จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบและติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีดังกล่าว

• แชร์
• ทวีต
• ส่งไลน์