สรรพสามิตภาคที่ 6 ร่วมกับสรรพสามิตพื้นที่พิษณุโลก ตรวจจับบุหรี่เถื่อนจำนวนมากในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก เผยพร้อมเดินหน้าปราบปรามสินค้าเถื่อนอย่างจริงจัง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 ธันวาคม 2567 ที่สรรพสามิตพื้นที่พิษณุโลก ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก นายพงษ์สิทธิ์  สุโมตยกุล ผู้อำนวยการสรรพสามิตภาคที่ 6 และ นางจันทิมา  เถื่อนเจริญ สรรพสามิตพื้นที่พิษณุโลก ร่วมกันแถลงข่าวผลการตรวจยึดบุหรี่เถื่อน 27,257 ซอง มูลค่าความเสียหายทางภาษีกว่า 20 ล้านบาท ลักลอบส่งทางพัสดุมาจากพื้นที่ชายแดนทั้งจาก อ.แม่สอด จ.ตาก และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ส่งปลายทางลูกค้าในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง โดย นายพงษ์สิทธิ์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สายตรวจสรรพสามิต และเจ้าหน้าที่สำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปราม ได้ร่วมออกตรวจสอบสืบสวนปราบปรามผู้กระทำความผิดในเขตพื้นที่ อ.เมือง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก โดยนำเครื่อง X-RAY สำหรับตรวจสอบสินค้าที่อยู่ในความควบคุมของกรมสรรพสามิต เข้าทำการตรวจสอบบริษัทขนส่งเอกชน พบการกระทำความผิดจำนวน 22 ราย ของกลางเป็นบุหรี่ซิกาแรตไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำนวนทั้งสิ้น 27,257 ซอง จึงทำการตรวจยึดนำของกลางทั้งหมดส่งให้ พงส.สภ.เมืองพิษณุโลก และ สภ.วัดโบสถ์ เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา มีไว้ครอบครองซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษี และมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษี

นายพงษ์สิทธิ์ ผู้อำนวยการสรรพสามิตภาคที่ 6 กล่าวต่อว่า การดำเนินการปราบปรามสินค้าเถื่อนและบุหรี่เถื่อนหรือบุหรี่หนีภาษีเป็นไปตามนโยบายของกรมสรรพสามิต เพื่อมุ่งปราบปรามสินค้าเถื่อนบุหรี่เถื่อนหรือบุหรี่มีภาษีให้หมดไปเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้แก่ผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริต ตลอดทั้งการยาสูบแห่งประเทศไทยผู้ผลิตบุหรี่ซิกาแรตและชาวไร่ผู้เพาะปลูกต้นยาสูบ และเพื่อคุ้มครองประชาชนและสังคมไม่ให้บริโภคสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยในการปฏิบัติงานปราบปรามการกระทำผิดเจ้าหน้าที่ได้มีการยกระดับการดำเนินการอย่างเข้มข้นด้วยการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหารและหน่วยงานด้านกระบวนการยุติธรรมรวมทั้งภาคเอกชน มีการนำเทคโนโลยีและเครื่องมือทันสมัยมาใช้ในการตรวจสอบเพื่อความถูกต้องแม่นยำและผลิตภาพในการปราบปรามผู้กระทำผิดเมื่อพบความผิดที่จะดำเนินการตามกฎหมายพร้อมทั้งเก็บข้อมูลรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดข้อมูลผู้กระทำผิดหรือผู้เกี่ยวข้องไว้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สำหรับความผิดในครั้งนี้พบมีภาษีที่รัฐต้องสูญเสียไปจำนวนมากและประมาณการค่าปรับตามกฎหมายสูงถึง 24,751,336.39 บาท

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า