ไฟไหม้บ้าน 3 หลังวอด 2 บางส่วน 1 แมวเสียชีวิต 1 ช่วยได้ 7 สาหัส 1
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 14 มกราคม 2568 ร.ต.อ.สาลี ดวงอุประ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนถนนสุพรรณกัลยา ซอย 1 บริเวณทางเข้าวัดโพธิญาณ ต.หัวรอ ไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.สันตสิริ เมตตาวงศ์ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก และประสานรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลหัวรอ รถดับเพลิงเทศบาลนครพิษณุโลก รถดับเพลิง อบจ.พิษณุโลก รถดับเพลิงของกองทัพภาคที่ 3 และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพิษณุโลก มูลนิธิประสาทบุญสถานไปช่วยดับไฟที่กำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง ถึงที่เกิดเหตุพบไฟไหม้บ้านต้นเพลิงวอดไปแล้วทั้งหลัง และลุกลามไปยังบ้านที่สองที่อยู่ติดกัน เจ้าหน้าที่พยายามฉีดน้ำดับไฟแต่ไฟไหม้ลุกโหมอย่างหนักแต่ไม่สามารถดับไฟได้ ทำให้บ้านหลังที่สองวอดทั้งหลังเช่นกัน และไฟยังลุกลามไปยังบ้านหลังที่ 3 เจ้าหน้าที่จึงสามารถสกัดเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดและดับไฟได้ทั้งหมด ทำให้บ้านหลังที่ 3 เสียหายบางส่วน
ตำรวจสอบสวนทราบว่า บ้านที่ถูกเพลิงไหม้ทั้ง 3 หลังเป็นบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ บ้านต้นเพลิงเลขที่ 3/15 ถนนเอกาทศรถ ซอยสุพรรณกัลยา 1 ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก เป็นบ้านของ นายสุรชัย ชัยเกิด อายุ 43 ปี เป็นนักดนตรีไทย พักอาศัยอยู่คนเดียว พร้อมกับแมวอีก 8 ตัว ซึ่งก่อนหน้าจะเกิดไฟไหม้ ก็กลับมาที่บ้านแล้วครั้งหนึ่งแล้วออกไปอีก จนกระทั่งข้างบ้านโทรตามว่าไฟไหม้บ้าน ทรัพย์สินภายในบ้านถูกไฟไหม้ทั้งหมดรวมทั้งเครื่องดนตรีไทย ทั้งระนาด ฆ้องวง กลอง และอื่น ๆ มูลค่าเฉพาะเครื่องดนตรีไทยประมาณ 1 แสนบาท ขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพิษณุโลก ได้ทำการช่วยเหลือแมวพันธุ์เปอร์เซียที่นายสุรชัยเลี้ยงไว้ได้ จำนวน 7 ตัว บาดเจ็บสาหัส 1 ตัวเพราะถูกไฟลวก และเสียชีวิตในกองเพลิง 1 ตัว ส่วนบ้านอีกสองหลังเป็นบ้านเช่า ไม่มีผู้ใดอยู่ในบ้านเช่นกัน สอบถามเพื่อนบ้านได้ยินเสียงคล้ายหม้อแปลงไฟในบ้านระเบิด ก่อนที่เกิดควันไฟพวยพุ่งออกมาจำนวนมากแล้วไฟก็ลุกท่วมบ้านอย่างรวดเร็ว เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตามจะได้ประสานตำรวจกลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 มาตรวจสถานที่เกิดเหตุโดยละเอียด เพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริง และจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป