“เปรมฤดี” แถลงนโยบาย ชูนครน่าอยู่ น่าเที่ยว และ น่าลงทุน

ชิงนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก เปรมฤดี ชามพูนท ผู้สมัครเบอร์ 3 เปิดตัวทีมบริหารและสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) ทั้ง 4 เขต รวมถึงที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจดึง ปาล์ม บวรเดช หล้าแหล่ง มาร่วมทีม ในงานแถลงข่าวสื่อมวลชน

เมื่อเวลา 11:00 น. วันที่ 4 มีนาคม 2568 ที่โรงแรมท็อปแลนด์พลาซ่า จ.พิษณุโลก นางเปรมฤดี ชามพูนท ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก หัวหน้าคณะลูกนเรศวร แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมา พิษณุโลกผ่านการพัฒนามามากมาย และวันนี้ต้องพัฒนาต่อไป สืบเนื่องจากสภาวะการณ์ปัจจุบัน นครพิษณุโลก กำลังเจอกับภาวะ ประชากร ผู้สูงอายุ ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ถึงกว่า 28 เปอร์เซ็นต์ ทำให้เรา ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ ประกอบกับประชากรวัยแรงงานต้องหาแหล่งงานนอกพื้นที่ เด็กจบใหม่ต้องไปทำงานที่อื่น เพราะเราไม่มีแหล่งงานขนาดใหญ่ เช่น ภาคอุตสาหกรรม ส่วนใหญ่ประกอบการค้า การบริการภายในเมือง ดังนั้น โจทย์สำคัญของเราคือ การกระตุ้นภาคการค้าการลงทุนในเขตเทศบาลนครให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยใช้ความน่าอยู่ ดึงคนให้พักอาศัยอยู่ในนครพิษณุโลก ใช้ความน่าเที่ยว สร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ดึงคนภายนอกเข้ามาท่องเที่ยว และเมื่อคนมาเที่ยว ก็จะสามารถดึงผู้ประกอบการ ดึงนักลงทุน เข้ามาลงทุนเพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวและผู้พักอาศัยได้ จะได้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจเมืองพิษณุโลกให้เติบโตต่อไป

การลงสมัครครั้งนี้ชู นโยบาย 3 นคร ประกอบด้วย นโยบาย “นครน่าอยู่” เมืองน่าอยู่สำหรับเราคือเมืองที่ประชาชนอยู่แล้วมีความสุข สะดวก สะอาด ปลอดภัย โครงสร้างพื้นฐานดี สังคมดี สิ่งแวดล้อมดี ติดตั้งกล้องวงจรปิด ครอบคลุม 65 ชุมชน พร้อมจัดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการ IOC บริหารจัดการความปลอดภัยของเมืองด้วยระบบ อัจฉริยะ มีศูนย์ควบคุมตลอด 24 ชั่วโมง การจัดเก็บขยะ ใช้แพลตฟอร์มอัจฉริยะ เพื่อติดตามรถเก็บขยะ และคำนวณปริมาณขยะ ป้องกันขยะ ตกค้าง ทำให้สามารถบริหารจัดการและดูแลเมืองให้สะอาดน่าอยู่ มีสุขอนามัยที่ดี ยก ระดับสู่ Smart Environment ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และกำจัดขยะ ด้วยแนวคิด (Zero Waste) คัดแยกขยะต้นทางโดยชุมชน เพื่อลดปริมาณขยะให้ได้มากที่สุด และกำจัดโดย วิธีการที่ต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่หลงเหลือมลพิษ ไม่ฝังกลบ มุ่งสู่การเปลี่ยนขยะเป็นพลังงานไฟฟ้า คืนสู่ชุมชน

ด้านสิ่งแวดล้อม เพิ่มพื้นที่สีเขียว โดยเปลี่ยนพื้นที่ว่างในชุมชน เป็น สวนใกล้บ้าน ครอบคลุมทั้ง 67 ชุมชน พัฒนาต่อเนื่อง เขื่อนป้องกันตลิ่ง เป็นพื้นที่พัก หย่อนใจ แหล่งท่องเที่ยว และสวนสุขภาพ ตลอดสองฝั่งแม่น้ำน่าน ในเขตเทศบาลนคร พัฒนาต่อเนื่องย่านไนท์บาร์ซาร์ และสวนกลางเมือง ให้เป็นลานคนเมือง ลาน สร้างสรรค์สำหรับคนทุกช่วงวัย ลดความแออัดการจราจร ด้วยขนส่งสาธารณะอัจฉริยะ SMART BUS ส่งเสริม พลังงานสะอาดด้วยการใช้รถเมล์ไฟฟ้า EV. เชื่อมโยงระบบSMART สามารถตรวจสอบ ได้ว่าขณะนี้ รถเมล์อยู่ ณ จุดไหน ช่วยกำหนดระยะเวลาเดินทางได้อย่างแม่นยำ เมือง เดินได้ ปรับปรุงทางเท้า ขยายทางเดินคน ในเขตเศรษฐกิจ จัดหาจุดจอดรถ จอดแล้วจร ลดการใช้ยานพาหนะบนท้องถนนให้มากที่สุด ออกแบบ ถนน และสวนสาธารณะ ด้วยแนวคิด Sponge City เพื่อช่วยซับน้ำ และบำบัดน้ำด้วยวิธีธรรมชาติ ก่อนปล่อยลงสู่ธรรมชาติ เป็นกำแพงกันฝุ่น เพื่อลดฝุ่น จากท้องถนน บรรเทาปัญหา PM2.5 และมลภาวะทางอากาศ ด้วยการติดตั้งเครื่องตรวจวัด คุณภาพอากาศ ทั่วเมือง พร้อมแจ้งเตือนผ่านแอฟพลิเคชั่นรักษ์ปอด จัดทำห้องปลอดฝุ่น ในโรงเรียนสำหรับเด็กเล็ก และห้องพักปอด ที่สวนสาธารณะสำหรับผู้มาออกกำลังกาย กลางแจ้ง

ด้านสาธารณสุข ยกระดับศูนย์สุขภาพชุมชน เป็น คลีนิคใกล้บ้าน ใกล้ใจ เพิ่มบริการด้านทันตกรรม และรับปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต กองทุน Long Term Care เพื่อการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้ที่มี ภาวะพึ่งพิง ศูนย์กลางการให้บริการ ด้านกายอุปกรณ์ เช่น เตียงนอน ที่นอนลม ไม้ค้ำยัน ถัง ออกซิเจน เป็นต้น และให้บริการน้ำดื่มสะอาด ฟรี ทุกชุมชน มีสระว่ายน้ำมาตรฐาน เพื่อส่งเสริมให้เด็กและประชาชนทุกคนว่ายน้ำเป็น พัฒนาต่อเนื่อง โดยให้มีศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจร SMART SENIOR COMPLEX ด้านการศึกษาจะให้มีการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ส่งเสริมหลักสูตรที่สอน ให้คิดเป็น หลักสูตรด้าน IT ภาษา และดนตรี ให้กับเด็กนักเรียน รวมถึงเพิ่มบุคลากรผู้ เชี่ยวชาญด้านภาษาและเทคโนโลยี ในทันต่อโลกยุคใหม่ ทันสมัยอยู่เสมอ รวมทั้งพัฒนาต่อเนื่อง ในเรื่องการปรับปรุงระบบการผลิตน้ำประปา ต่อยอดด้วย การนำระบบเทคโนโลยี เข้ามาใช้ในการบริหารจัดการโรงผลิตตรวจสอบคุณภาพน้ำ ปริมาณการรั่วไหล SMART MONITORING สามารถแจ้งเตือนได้ ตลอด 24 ชั่วโมง

นโยบาย “นครน่าเที่ยว” ทำให้เป็นนครแห่งแสงสี ประดับไฟสวยงามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในเมือง เพื่อสร้างจุด เชคอิน และเป็นแหล่งท่องเที่ยว ดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้พักค้างคืน ส่งเสริมกิจกรรมการ ท่องเที่ยวยามภาคกลางคืน (Night Life Tourism) เพิ่มความสวยของเมือง พัฒนาต่อเนื่อง โครงการ สายไฟฟ้าลงดิน เพื่อความสวยงามเป็นระเบียบ เรียบร้อยของเมือง ฟื้นวิถีการท่องเที่ยว ชีวิตเรือนแพกลับมมาอีกครั้ง หลังจากพัฒนาเขื่อน ป้องกันตลิ่ง 2 ฝั่งแม่น้ำให้สวยงามแล้ว จะนำเรือนพกลับมาเพื่อเป็นอัตลักษ ณ์และส่งเสริมการท่องเที่ยว ให้พิษณุโลก อีกครั้ง ยกระดับงานประเพณีท้องถิ่น ให้เป็นงานส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับประเทศ ดึงนักท่องเที่ยว เข้ามาเที่ยวช่วงการจัดงานเทศกาล ได้แก่ งานปีใหม่เคาท์ดาวน์ งาน สงกรานต์ งานลอยกระทง งานแข่งเรือยาว และงานง่วนเซียว สร้างพื้นที่สร้างสรรค์ เปิดโอกาส ให้ผู้มีความสามารถแสดงผลงาน ด้าน ศิลปะ ดนตรี ความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ เพื่อเป็นพื้นที่ท่องเที่ยว และส่งส่งเสริม Soft Power ในชุมชน ให้มีพื้นที่จดแสดง และจัดจำหน่าย และยกย่านสร้างสรรค์ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น ปลุกเมือง กระตุ้นให้เกิด การท่องเที่ยว ดึงคนรุ่นใหม่มาร่วมออกแบบเมือง และลงทุนในสินทรัพย์เดิมที่เมืองมี เพิ่มมูลค่าให้ย่านเก่าของเมือง

นโยบาย “นครน่าลงทุน” ปรับปรุงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเมือง เตรียมเมืองเพื่อรองรับการลงทุน ที่ เหมาะสมกับนครแห่งการค้า การบริการ จัดทำระบบฐานข้อมูลเมือง CITY DATA PLATFORM เพื่ออำนวยความ สะดวกให้กับ ประชาชนและนักลงทุน ที่ต้องการข้อมูลเมือง พัฒนาต่อเนื่อง ศูนย์ข้อ เมืองอัจฉริยะ ศูนย์ข้อมูลที่ประชาชนสามารถเข้าไปค้นคว้า ข้อมูล เพื่อการค้าการลงทุน ต่างๆได้ จัดทำ SUPER MAP เพื่อการวางแผนพัฒนาเมืองในอนาคตได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ด้วยระบบ GIS พัฒนาพื้นที่ย่านเศรษฐกิจหลักของเมือง เพิ่มทั้ง 4 โซน เพื่อดึงดูดนักลงทุน จัดทำข้อมูลสินทรัพย์ (Housing Stock) เพื่อนักลงทุน สามารถดูข้อมูลการพัฒนาสินทรัพย์ ในพื้นที่ได้อย่างง่ายดาย ศูนย์กลางนักขายออนไลน์ เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และ Soft power ในชุมชน ติดอาวุธยกระดับสู่ตลาดออนไลน์ จัดทำ 1 ชุมชน 1 Soft power ปรับปรุงห้องสมุด ให้เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ Co – Working Space เพื่อผู้ประกอบการและคนรุ่นใหม่จะได้มีพื้นที่พบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยน ขับเคลื่อน เศรษฐกิจไปด้วยกัน ทุกรุ่น ทุกวัย นวัตกรรมผู้สูงวัย เปลี่ยนภาระ เป็นพลัง ในการลงทุนใหม่ ดึงการลงทุนธุรกิจ การให้บริการผู้สูงอายุ มาลงทุน พร้อมปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐารนสำหรับทุกคน (อารยะสถาปัตย์) การนำเทคโนโลยี มาอำนวยความสะดวกในการให้บริการประชาชน ควบคู่ กับการใช้หลักบริหารจัดการที่ดี โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเป็นธรรมสำหรับทุกคน SMART & GOOD GOVERNANCE ซึ่งนโยบาย 3 นครทั้งหมดนี้ คือ “อนาคต” ที่เราวางแผนขับเคลื่อนเมือง เพื่อส่งต่ออนาคตที่ดีที่สุด ให้กับคนทุก คน ทุกช่วงวัย

ในการแถลงข่าวครั้งนี้คณะลูกนเรศวรได้เปิดตัวทีมบริหาร ที่จะมาเป็นรองนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก พร้อมทั้งเปิดตัวผู้สมัคร สมาชิกสภาเทศบาลนครพิษณุโลกทั้ง 4 เขต ที่กำหนดเลือกตั้งในวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 และเป็นที่ฮือฮาอย่างมาก เมื่อมีการเปิดตัวที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจที่นำโดยปาล์ม หรือ นายบวรเดช หล้าแหล่ง ที่การเลือกตั้ง นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก ครั้งที่แล้ว เมื่อปี 2564 นายบวรเดช ถือเป็นคู่แข่งหลักที่ชนกับ นางเปรมฤดี และมีคะแนนการเลือกตั้งสูสีกันมาก ห่างกันเพียงแค่กว่า 200 คะแนนเท่านั้น โดย นางเปรมฤดี ได้ตอบคำถามกับสื่อมวลชนถึงเรี่องนี้ว่า “การเมืองเป็นเรื่องของอุดมการณ์ในการร่วมมือพัฒนาเมือง ถึงแม้ตนจะเคยแข่งขันกับคุณปาล์มมา แต่แข่งขันในอุดมการณ์ที่ต้องการพัฒนาเมือง เราสามารถคุยกันได้ ถ้าเรามีเป้าหมายเดียวกัน ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นศัตรูกัน ถึงแม้เราจะเคยแข่งกัน ตนจึงเชิญคุณปาล์มมา ถ้าคิดว่าอุดมการณ์ยังอยากจะสานต่อก็สามารถมาร่วมทีมกันได้ เราก็ได้คนรุ่นใหม่มาช่วยกันพัฒนาบ้านเมือง”

ทั้งนี้ ปาล์ม นายบวรเดช หล้าแหล่ง เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ตนได้รับเชิญจากคุณเปรมฤดี ให้มาช่วยกันพัฒนาเมือง ตนสนใจในเรื่องนี้อยู่แล้ว และครั้งนี้ตนก็ไม่ได้ลงสมัครด้วย จึงรับเชิญและขอเข้ามาช่วยด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ ด้านการกระตุ้นเศรษฐกิจ การพัฒนาชุมชน 65 ชุมชน การพัฒนา Street food และการพัฒนาสถานที่ทางเศรษฐกิจในด้านการลงทุน
