สื่อมวลชนสัมพันธ์โครงการจัดทำแผนแม่บท พัฒนาเส้นทางท่องเที่ยว มรดกโลกด้านวัฒนธรรม
สื่อมวลชนจากตาก สุโขทัย พิษณุโลก และกำแพงเพชร ร่วมงานสัมพันธ์สื่อมวลชนโครงการจัดทำแผนแม่บท พัฒนาเส้นทางท่องเที่ยว มรดกโลกด้านวัฒนธรรม เพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์โครงการพร้อมร่วมแสดงความคิดเห็น ก่อนมีการประชุมระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในแต่ละจังหวัดให้แล้วเสร็จภายใน 9 เดือนนับจากนี้
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 24 มีนาคม 2568 ที่ห้องประชุมไพลิน โรงแรมนวรัตน์เฮอริเทจ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร กรมทางหลวงชนบทร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดงานสื่อมวลชนสัมพันธ์โครงการจัดทำแผนแม่บท พัฒนาเส้นทางท่องเที่ยว มรดกโลกด้านวัฒนธรรม จังหวัดตาก สุโขทัย พิษณุโลก และกำแพงเพชร เพื่อเผยแพร่โครงการ โดยมี ผศ.ดร.ปรีดา พิชยาพันธ์ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้จัดการโครงการ นายวิษณุเดช นันไชยแก้ว อาจารย์ประจำวิชาเอกการเงินและการธนาคาร มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อและการมีส่วนร่วม นางสาวอนงค์นาถ คำศิริ ผู้อำนวยการ กลุ่มความร่วมมือระหว่างประเทศ กรมทางหลวงชนบท และ รศ.ดร.ศุภโชคชัย นันทศรี ผู้ช่วยอธิการบดีงานด้านศิลปวัฒนธรรมและสื่อสารองค์กร อาจารย์ประจำสาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร ร่วมกันให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ
สำหรับโครงการนี้ มุ่งเน้นการยกระดับโครงข่ายถนนให้มีความสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น รองรับนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป พร้อมทั้งเสริมสร้างศักยภาพด้านคมนาคมให้สอดรับกับแหล่งมรดกโลกด้านวัฒนธรรม โดยมีการพิจารณารูปแบบถนนที่เหมาะสม ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ขยายไหล่ทาง ปรับปรุงผิวจราจร ติดตั้งไฟส่องสว่าง และป้ายเตือน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและรองรับปริมาณการเดินทางในอนาคต นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็น เพื่อนำไปสู่การออกแบบเส้นทางที่เหมาะสม โดยอาจมีการพัฒนาแนวเส้นทางใหม่เพื่อเชื่อมต่อแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ หรือเติมเต็มโครงข่ายถนนให้สมบูรณ์ ลดผลกระทบต่อชุมชนและพื้นที่อนุรักษ์
ทั้งนี้ การพัฒนาเส้นทางดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมใน 4 จังหวัดเหนือล่าง เชื่อมโยงประวัติศาสตร์และมรดกโลก พร้อมยกระดับโครงสร้างพื้นฐานให้รองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ คาดว่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจและพัฒนาการท่องเที่ยวของประเทศไทยในอนาคต และในห้วงระยะเวลา 9 เดือนนับจากนี้ จะมีการประชุมระดมความคิดเห็นจากภาครัฐ อปท. ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ เพื่อจัดทำแผนให้สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพสูงสุดในแต่ละจังหวัดอีกครั้ง
