งานประเพณีไหลแพไฟฯ ขอบคุณพืชพันธุ์ธัญญาหาร-สายน้ำ และเทศกาลกินปลากินไข่

จังหวัดอุตรดิตถ์เปิดงานประเพณีไหลแพไฟเฉลิมพระเกียรติและพิธีขอบคุณพืชพันธุ์ธัญญาหารและสายน้ำ และเทศกาลกินปลากินไข่ ประจำปี 2568 ครั้งที่ 26 ระหว่างวันที่ 3 – 6 ธันวาคม 2568 ที่บริเวณท่าน้ำริมน้ำน่าน

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 5 ธันวาคม 2568 ที่วัดหาดสองแคว ต.หาดสองแคว อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ นายสันติ รังษิรุจิ ผวจ.อุตรดิตถ์ เป็นประธานเปิดงานประเพณีไหลแพไฟเฉลิมพระเกียรติและพิธีขอบคุณพืชพันธุ์ธัญญาหารและสายน้ำ และเทศกาลกินปลากินไข่ ประจำปี 2568 ครั้งที่ 26 พร้อมด้วย นายสุรพันธ์ เจริญทรัพย์ วัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ และ นางสาวภัททิรา คำอภิวงศ์ หัวหน้าศูนย์ประสานงาน ททท.สำนักงานอุตรดิตถ์ โดยมี นางสาวพรทิพย์ คล้ายชม นายอำเภอตรอน กล่าวรายงานการจัดงานและหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่นและ ประชาชน ร่วมงานดังกล่าว สำหรับงานครั้งนี้จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 3 – 6 ธันวาคม 2568 ที่บริเวณท่าน้ำริมน้ำน่าน ทั้ง 5 ท่าน้ำ ในพื้นที่อำเภอตรอน เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และยังส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ตลอดจนสืบสานงานประเพณีไหลแพไฟให้เกิดความยั่งยืน

ภายในงาน มีการจัดนิทรรศการแพไฟเฉลิมพระเกียรติฯ และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม , สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว การแสดงศิลปวัฒนธรรม การประกวดถ่ายรูป การจัดวิ่ง Night Run ตลอดจนกิจกรรมตลาดวัฒนธรรม ให้เลือก Shopping เลือกชิมอาหาร สินค้าผลิตภัณฑ์ในชุมชน เทศกาลกินปลากินไข่ การสาธิตทำอาหารเมนูจากปลาและไข่จากแหล่งผลิตในพื้นที่ ส่วนไฮไลท์ของงานในวันที่ 5 ธันวาคม ที่จะมีการไหลแพไฟทั้ง 7 หลัง ได้แก่ 1.เอกองค์อัมรินทร์ 2.นวมินทรมหาราช 3.ปราชญ์แห่งแผ่นดิน 4.อัครศิลปิน 5.ภูมินทร์ภัทรราชัน 6.คุ้มเกล้าประชาสุขสันต์ และ 7.ราชันแห่งราชา ตั้งแต่ท่าน้ำวังแดง ถึงท่าน้ำวัดหาดสองแคว รวมระยะทางราว 10 กิโลเมตร ถือเป็นการยกระดับงานประเพณีไหลแพไฟเฉลิมพระเกียรติฯ และขับเคลื่อน Soft Power ของจังหวัดอุตรดิตถ์ สู่การท่องเที่ยวชุมชน และการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม สร้างรายได้ให้กับชุมชนและจังหวัดอุตรดิตถ์ต่อไป
ข่าว : ประสิทธิ์ ผึ้งสุข






