รวบสาวก่อเหตุวิ่งราวสร้อยคอทองคำห้างทองหน้าโรงเรียนดัง
![](https://klunprikkynoo.com/wp-content/uploads/2023/12/1560701_0-512x288.jpg)
รอง ผบช.ภ.6 กับพวกแถลงข่าวผลการจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุวิ่งราวสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทจากห้างทองพัณณิตา ตรงข้ามกับโรงเรียนอนุบาลพิษณุโลก ต.หัวรอ ช่วงบ่ายวานนี้ (14 ธ.ค.) ที่หน้า สภ.เมืองพิษณุโลก ก่อนนำตัวไปทำแผนที่จุดเกิดเหตุ
![](https://klunprikkynoo.com/wp-content/uploads/2023/12/1737613_0-512x288.jpg)
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 15 ธ.ค.2566 ที่หน้า สภ.เมืองพิษณุโลก พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.6 พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ รอง ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก และ พ.ต.อ.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมกับพวกแถลงข่าวผลการจับกุม น.ส.รุ่งทิพย์ หรือแก้ว หยวกอ่อง อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 238 หมู่ที่ 3 ต.บ้านกร่าง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำ-ส้ม คันทะเบียน 1กด – 6503 พิษณุโลก 1 คัน เสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีดำ เสื้อยืดสีขาวดำทำเป็นหมวกคลุมหน้า รองเท้าแตะ 1 คู่ และใบเสร็จ ธ.กรุงศรีฯ ที่ น.ส.รุ่งทิพย์นำเงินขายทองที่วิ่งราวมาไปจ่ายค่ารถ 28,000 บาท โดยก่อนหน้านี้เวลาประมาณ 14.50 น. วันที่ 14 ธ.ค.2566 ร.ต.อ.ณัฐชัย ศักดิ์บูรณาเพชร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุคนร้ายวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ที่ห้างทองพัณณิตา ตรงข้ามกับโรงเรียนอนุบาลพิษณุโลก ต.หัวรอ จากการสอบสวน น.ส.ปารวีรัตน์ สุวรรณบุญญาพร อายุ 47 ปี เจ้าของร้านทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุเป็นหญิงอายุประมาณ 30-40 ปี ทำทีขอดูสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 บาท พูดคุยสอบถามราคากับผู้เสียหายเป็นเวลาประมาณ นาทีเศษ เมื่อผู้เสียหายได้นำทองในใส่ถาดให้ คนร้ายดูแล้วใช้มือฉกฉวยสร้อยคอทองคำแล้ววิ่งหลบหนีและขึ้นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 110 สีส้ม – ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่จอดอยู่หน้าห้างทอง แล้วขับขี่หลบหนีออกจากที่เกิดเหตุมุ่งหน้าไปตัว อ.เมืองพิษณุโลก
![](https://klunprikkynoo.com/wp-content/uploads/2023/12/1737617_0-512x288.jpg)
![](https://klunprikkynoo.com/wp-content/uploads/2023/12/1737614_0-512x288.jpg)
โดย พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.6 กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก และ พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ สุดหอม สว.สส.ส.ภ.เมืองพิษณุโลก กับพวกได้สืบสวนหาข่าว และไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายก่อเหตุและหลบหนี จนกระทั่งต่อมาในวันเดียวกัน วันที่ 14 ธ.ค.2566 เวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและสืบสวนจนเชื่อได้ว่า น.ส.รุ่งทิพย์ น่าจะเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ และหลบหนีไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 283 หมู่ที่ 3 ต.บ้าง จึงไปตรวจสอบ พบ น.ส.รุ่งทิพย์ อยู่ที่บ้านพักหลังดังกล่าว สอบถามเบื้องต้น นางสาวรุ่งทิพย์ฯ ให้การยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริงเพราะต้องการใช้เงินด่วน เนื่องจากมีภาระหนี้สินทั้งในระบบและนอกระบบ จำนวนหลักแสนบาท เรื่องผ่อนชำระค่างวดรถยนต์ โดยนำสร้อยคอทองคำของกลางไปขายที่ห้างทองเยาวราช ต.บ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก ในราคา 63,000 บาท และ น.ส.รุ่งทิพย์ ได้ตำรวจนำตรวจค้นภายในบ้านพัก พบเสื้อผ้าและรองเท้าที่ใช้ในการก่อเหตุและพบรถ จยย.ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนที่เป็นพาหนะในการก่อเหตุ จึงทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลางพร้อมกับตรวจยึดสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทของกลางจากห้องทองเยาวราชที่ น.ส.รุ่งทิพย์ นำไปขาย ก่อนทำบันทึกจับกุมนำตัวและของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีในข้อหา วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม
![](https://klunprikkynoo.com/wp-content/uploads/2023/12/S__2425376_0-512x384.jpg)
![](https://klunprikkynoo.com/wp-content/uploads/2023/12/S__2425402_0-512x384.jpg)
พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.6 กล่าวต่อว่า พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รองผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 6 ได้กล่าวฝากขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือ ติดตั้งกล้องวงจรปิดนอกบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบร่วมกับกล้อง CCTV และกล้องตามบ้านเรือนประชาชน จึงทำให้สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้ถึงบ้านพักภายในระยะเวลาเพียง 5 ชั่วโมงเท่านั้น พร้อมเน้นย้ำให้กับทางร้านทองต่างๆ ให้เพิ่มความระมัดระวังอีกทาง เพราะจากเหตุนี้คนร้ายได้สารภาพว่า ได้ตระเวนดูร้านทองในพื้นที่ใกล้เคียงมาหลายร้านแล้ว แต่เลือกลงมือร้านนี้เพราะมีคนอยู่ในร้านเพียงคนเดียวจึงสบโอกาสลงมือก่อเหตุดังกล่าว และขอฝากประชาสัมพันธ์กำชับให้ธนาคาร ร้านทอง ร้านสะดวกซื้อ และสถานประกอบการอื่น ๆ ที่ล่อแหลมต่อการเกิดเหตุ ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันเหตุร้ายและสัญญาณเตือนภัย เช่น กล้องโทรทัศน์วงจรปิด ทั้งภายในและนอกสถานที่ประกอบการ มีการทดสอบเป็นประจำทุกวันว่า กล้องดังกล่าวสามารถบันทึกภาพได้อย่างชัดเจน สังเกตพฤติกรรมบุคคลที่เข้ามาซื้อสินค้า หรือใช้บริการ หรือคนแปลกหน้า ที่มาเดินวนเวียนไปมาหน้าร้านค้า ร้านทองหลายครั้ง ส่วนประชาชนทั่วไป ให้ระมัดระวังป้องกันตนเอง โดยไม่สวมใส่เครื่องประดับราคาแพงไปในที่สาธารณะต่าง ๆ เพื่อมิให้เป็นที่ล่อสายตาคนร้าย และป้องกันการก่อเหตุชิงทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ หลังแถลงข่าวตำรวจได้คุมตัว น.ส.รุ่งทิพย์ ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และนำตัวมาควบคุมไว้ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก ก่อนนำตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดพิษณุโลกฝากขังไว้ที่เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป