รอง ผบช.ภ.6 กับพวกแถลงข่าวผลการจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุวิ่งราวสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทจากห้างทองพัณณิตา ตรงข้ามกับโรงเรียนอนุบาลพิษณุโลก ต.หัวรอ ช่วงบ่ายวานนี้ (14 ธ.ค.) ที่หน้า สภ.เมืองพิษณุโลก ก่อนนำตัวไปทำแผนที่จุดเกิดเหตุ

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 15 ธ.ค.2566  ที่หน้า สภ.เมืองพิษณุโลก พล.ต.ต.บัณฑิต  ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.6 พ.ต.อ.ภาคภูมิ  ปราบศรีภูมิ รอง ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก และ พ.ต.อ.ธัชพงศ์  วงศ์พัฒนานิวาศ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมกับพวกแถลงข่าวผลการจับกุม น.ส.รุ่งทิพย์ หรือแก้ว  หยวกอ่อง อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 238 หมู่ที่ 3 ต.บ้านกร่าง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำ-ส้ม คันทะเบียน 1กด – 6503 พิษณุโลก 1 คัน เสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีดำ เสื้อยืดสีขาวดำทำเป็นหมวกคลุมหน้า รองเท้าแตะ 1 คู่ และใบเสร็จ ธ.กรุงศรีฯ ที่ น.ส.รุ่งทิพย์นำเงินขายทองที่วิ่งราวมาไปจ่ายค่ารถ 28,000 บาท โดยก่อนหน้านี้เวลาประมาณ 14.50 น. วันที่ 14 ธ.ค.2566 ร.ต.อ.ณัฐชัย  ศักดิ์บูรณาเพชร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุคนร้ายวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ที่ห้างทองพัณณิตา ตรงข้ามกับโรงเรียนอนุบาลพิษณุโลก ต.หัวรอ จากการสอบสวน น.ส.ปารวีรัตน์  สุวรรณบุญญาพร อายุ 47 ปี เจ้าของร้านทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุเป็นหญิงอายุประมาณ 30-40 ปี ทำทีขอดูสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 บาท พูดคุยสอบถามราคากับผู้เสียหายเป็นเวลาประมาณ  นาทีเศษ เมื่อผู้เสียหายได้นำทองในใส่ถาดให้ คนร้ายดูแล้วใช้มือฉกฉวยสร้อยคอทองคำแล้ววิ่งหลบหนีและขึ้นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 110 สีส้ม – ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่จอดอยู่หน้าห้างทอง แล้วขับขี่หลบหนีออกจากที่เกิดเหตุมุ่งหน้าไปตัว อ.เมืองพิษณุโลก

โดย พล.ต.ต.บัณฑิต  ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.6 กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ธัชพงศ์  วงศ์พัฒนานิวาศ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก และ พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์  สุดหอม สว.สส.ส.ภ.เมืองพิษณุโลก กับพวกได้สืบสวนหาข่าว และไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายก่อเหตุและหลบหนี จนกระทั่งต่อมาในวันเดียวกัน วันที่ 14 ธ.ค.2566 เวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและสืบสวนจนเชื่อได้ว่า น.ส.รุ่งทิพย์ น่าจะเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ และหลบหนีไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 283 หมู่ที่ 3 ต.บ้าง จึงไปตรวจสอบ พบ น.ส.รุ่งทิพย์ อยู่ที่บ้านพักหลังดังกล่าว สอบถามเบื้องต้น นางสาวรุ่งทิพย์ฯ ให้การยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริงเพราะต้องการใช้เงินด่วน เนื่องจากมีภาระหนี้สินทั้งในระบบและนอกระบบ จำนวนหลักแสนบาท เรื่องผ่อนชำระค่างวดรถยนต์ โดยนำสร้อยคอทองคำของกลางไปขายที่ห้างทองเยาวราช ต.บ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก ในราคา 63,000 บาท และ น.ส.รุ่งทิพย์ ได้ตำรวจนำตรวจค้นภายในบ้านพัก พบเสื้อผ้าและรองเท้าที่ใช้ในการก่อเหตุและพบรถ จยย.ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนที่เป็นพาหนะในการก่อเหตุ จึงทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลางพร้อมกับตรวจยึดสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทของกลางจากห้องทองเยาวราชที่ น.ส.รุ่งทิพย์ นำไปขาย ก่อนทำบันทึกจับกุมนำตัวและของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีในข้อหา วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม

พล.ต.ต.บัณฑิต  ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.6 กล่าวต่อว่า พล.ต.ต.บัณฑิต  ตุงคะเศรณี รองผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 6 ได้กล่าวฝากขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือ ติดตั้งกล้องวงจรปิดนอกบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบร่วมกับกล้อง CCTV และกล้องตามบ้านเรือนประชาชน จึงทำให้สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้ถึงบ้านพักภายในระยะเวลาเพียง 5 ชั่วโมงเท่านั้น พร้อมเน้นย้ำให้กับทางร้านทองต่างๆ ให้เพิ่มความระมัดระวังอีกทาง เพราะจากเหตุนี้คนร้ายได้สารภาพว่า ได้ตระเวนดูร้านทองในพื้นที่ใกล้เคียงมาหลายร้านแล้ว แต่เลือกลงมือร้านนี้เพราะมีคนอยู่ในร้านเพียงคนเดียวจึงสบโอกาสลงมือก่อเหตุดังกล่าว และขอฝากประชาสัมพันธ์กำชับให้ธนาคาร ร้านทอง ร้านสะดวกซื้อ และสถานประกอบการอื่น ๆ ที่ล่อแหลมต่อการเกิดเหตุ ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันเหตุร้ายและสัญญาณเตือนภัย เช่น กล้องโทรทัศน์วงจรปิด ทั้งภายในและนอกสถานที่ประกอบการ มีการทดสอบเป็นประจำทุกวันว่า กล้องดังกล่าวสามารถบันทึกภาพได้อย่างชัดเจน สังเกตพฤติกรรมบุคคลที่เข้ามาซื้อสินค้า หรือใช้บริการ หรือคนแปลกหน้า ที่มาเดินวนเวียนไปมาหน้าร้านค้า ร้านทองหลายครั้ง ส่วนประชาชนทั่วไป ให้ระมัดระวังป้องกันตนเอง โดยไม่สวมใส่เครื่องประดับราคาแพงไปในที่สาธารณะต่าง ๆ เพื่อมิให้เป็นที่ล่อสายตาคนร้าย และป้องกันการก่อเหตุชิงทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ หลังแถลงข่าวตำรวจได้คุมตัว น.ส.รุ่งทิพย์ ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และนำตัวมาควบคุมไว้ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก ก่อนนำตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดพิษณุโลกฝากขังไว้ที่เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า