ร้อนระอุไฟไหม้ร้านรับซื้อของเก่าและรับซื้อปาล์มที่ อ.นครไทย
สภาพอากาศร้อนระอุ คาดทำให้เกิดไฟไหม้ร้านแก้วดวงดี รีไซเคิล ที่บ้านป่าซ่าน อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ทำให้ของเก่า ปาล์ม และขยะรีไซเคิลวอดจำนวนมาก
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 4 พ.ค. พ.ต.ท.เสน่ห์ พรมรัตน์ สว.(สอบสวน) สภ.นครไทย รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ที่ร้านแก้วดวงดี รีไซเคิล เลขที่ 110 หมู่ที่ 3 บ้านป่าซ่าน ต.บ้านพร้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก จึงประสานขอรถดับเพลิงของ อบต.บ้านพร้าว อบต.หนองกะท้าว อบต.เนินเพิ่ม เทศบาลตำบลนครไทย และ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพมงคลธรรมไปช่วยดับไฟ ไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมบูรณ์ สีแดง ผกก. สภ. นครไทย และ นายไสว เจริญศรี นายอำเภอนครไทย พบที่เกิดเหตุอยู่บริเวณโกดังเก็บขยะรีไซเคิล เพลิงกำลังลุกไหม้โหมหนักอย่างรุนแรงเนื่องจากส่วนใหญ่เป็นของเก่า ที่มีทั้งกล่องกระดาษและขยะรีไซเคิลที่ติดไฟได้ง่าย ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนระอุ ทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องระดมฉีดน้ำนานกว่า 1 ชม. จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด แต่ก็ยังมีการปะทุของเชื้อเพลิงเป็นระยะทางเจ้าหน้าที่ต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ตลอดเวลา
จากการสอบถามทราบว่า ก่อนเกิดเหตุคนงานกำลังใช้เครื่องอัดกระดาษอัดกระดาษอยู่ในโกดังจำนวน 2 คน แล้วเกิดไฟลุกไหม้ คนงานพยายามช่วยกันน้ำไปดับไฟ แต่ไฟลุกลามอย่างรวดเร็วจึงใช้รถตักของเก่าและกระดาษออกไปนอกโกดังได้บางส่วน เพื่อป้องกันไฟลุกลามกระทั่งรถดับเพลิงมาช่วยฉีดน้ำดับไฟดังกล่าว เบื้องต้นไม่มีผู้ใดเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากการเกิดเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ และเจ้าของร้านไม่ติดใจสาเหตุเพลิงไหม้คาดอากาศที่ร้อนจัดในช่วงนี้อาจทำให้เกิดเพลิงไหม้กระดาษ อย่างไรก็ตามตำรวจจะได้ประสานเจ้าหน้าที่กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 มาตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ด้าน นายไสว เจริญศรี นายอำเภอนครไทย เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ครั้งนี้พบว่าโกดังเก็บขยะรีไซเคิล ได้ทำการอัดก้อนกระดาษกว่า 700 กิโลกรัม และอัดแก้วพลาสติกไว้อีกกว่า 500 กิโลกรัม เพื่อเตรียมไปส่งโรงงานรีไซเคิลที่ภาคกลางอีกครั้งแต่เกิดไฟไหม้เสียก่อน โดยหลังจากเกิดเหตุเจ้าของรีไซเคิลมีสติเป็นอย่างดี สั่งให้คนงานใช้รถตักกองกระดาษและขยะรีไซเคิลที่อยู่บริเวณหัวและท้ายจุดที่มีเพลิงไหม้ออก เพื่อให้เพลิงอยู่ในวงจำกัด ซึ่งถึงแม้ว่าในขณะนี้เพลิงจะยังไม่ดับสนิทก็ตาม แต่ก็สามารถควบคุมเพลิงได้เป็นที่เรียบร้อย ส่วนกลิ่นไหม้ขยะโกดังครั้งนี้ยังไม่มีรายงานว่าประชาชนได้รับผลกระทบแต่อย่างใด เนื่องจากในระยะ 300-500 เมตร ไม่มีบ้านเรือนประชาชนพักอาศัยอยู่ แต่ก็สั่งการให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องของควันไฟเพราะหากประชาชนสูดดมกลิ่นควันไปแล้วจะเกิดมีอาการได้